ปลัดพาณิชย์ ถกรองนายกเทศมนตรีเมืองนีซ (นายฟรองค์ มาร์แต็ง) และนายกเทศมนตรีเมืองกราส (นายเจโรม วิโอ) ถึงแนวทางการผลักดันธุรกิจ HORECA (Hotel/Restaurant/Catering) พร้อมทั้งสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการขยายการค้าในฝรั่งเศส ย้ำทูตพาณิชย์ไทยร่วมมือดำเนินกิจกรรมกับภาคเอกชนของไทยเพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพของภาคธุรกิจทั้งสองฝ่ายให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ได้นำคณะเดินทางไปเมืองนีซซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในระดับโลก มีโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานประกอบการหลากหลายประเภทรองรับธุรกิจการท่องเที่ยว ทำให้มีความต้องการสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินค้าอาหาร รวมถึงธุรกิจ HORECA (Hotel/ Restaurant/ Catering) ซึ่งเป็นโอกาสของไทยในการขยายตลาดให้กับธุรกิจดังกล่าวในเมืองนีซ นอกจากนั้น ชาวเมืองนีชยังนิยมเลี้ยงสุนัขและแมว จึงทำให้เห็นช่องทางขยายตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งสินค้าดังกล่าวของไทยได้ส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมทั้งยังเห็นโอกาสในธุรกิจบริการอย่างเช่น บริการทางการแพทย์ และ Hospitality จึงได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ไทยในฝรั่งเศสเร่งดำเนินการในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าสำหรับสินค้าดังกล่าว และประสานงานกับผู้ประกอบการไทยให้พบปะเจรจากับผู้นำเข้าของนีซอีกด้วย
ในขณะที่ เมืองกราสเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับโลกด้านความเชี่ยวชาญในการผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอาง ส่วนไทยมีภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพรที่น่าสนใจอย่างมาก จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการด้านวัตถุดิบเครื่องหอมและเครื่องสำอางจากไทยเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้ผลิตเครื่องหอมและเครื่องสำอางชั้นนำในฝรั่งเศส ผ่านการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching : OBM) ซึ่งจะช่วยขยายมูลค่าการส่งออกสินค้าในหมวดดังกล่าวจากไทย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือร่วมมือทั้งในด้านของการวิจัย ค้นคว้า ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการด้านเครื่องหอมและเครื่องสำอางของไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ในโอกาสนี้ ได้เชิญผู้ประกอบการฝรั่งเศสเยือนงานแสดงสินค้า THAIFEX – ANUGA ASIA ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตลอดจน กิจกรรมส่งเสริมการค้าอื่นๆ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าระหว่างกัน และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่ากรมฯ จะมีการจัดงาน THAIFEX – HOREC Asia ขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2567 จึงขอเชิญชวนผู้นำเข้าฝรั่งเศสเข้าร่วมงานดังกล่าว และได้มอบหมายให้ สคต. ณ กรุงปารีส เป็นผู้ประสานแจ้งในรายละเอียด
โดยในปี 2565 การค้ารวมระหว่างไทยกับฝรั่งเศสมีมูลค่า 4,513.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.16% จากปีก่อนหน้า โดยการส่งออกสินค้าไทยไปฝรั่งเศส คิดเป็นมูลค่า 2,127.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว เพิ่มขึ้น 13.54% โดยฝรั่งเศสถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญลำดับที่ 4 ใน EU รองจากเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และ อิตาลี โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังฝรั่งเศส ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ เลนซ์ และผลิตภัณฑ์ยาง ในขณะที่เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์รักษาผิว และสมุนไพรที่ไทยส่งออกไปฝรั่งเศส มีมูลค่ารวม 4.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 45%
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
ข่าวเด่น