การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
"กรุงเทพโพลล์" ผลสำรวจเรื่อง "คิดเห็นอย่างไรต่อความหลากหลายทางเพศ ในเดือน "Pride Month""


ประชาชน 91.4 % ระบุว่าปัจจุบันสังคมไทยเปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด โดย 67.2 % เห็นการขับเคลื่อนทางสังคมไทยเรื่องความหลากหลายทางเพศด้วยการอนุญาตให้แต่งกายตามเพศสภาพ ในสถานศึกษา และสถานที่ทำงาน ทั้งนี้ 78.6% เห็นด้วยค่อนข้างมากถึงมากที่สุดเรื่องให้คู่รัก LGBTQ+ได้รับสิทธิทางกฎหมาย และ 75.1% ยอมรับได้ หากมี ลูก หรือคนใน ครอบครัว เป็น LGBTQ+ แต่ยังคงห่วงว่าจะโดนล้อ/สังคมไม่ยอมรับ/เก็บกด


เนื่องด้วยในเดือนมิถุนายนของทุกปีคือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ(Pride Month) กรุงเทพโพลล์โดย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คิดเห็นอย่างไรต่อความหลากหลายทางเพศ ในเดือน “Pride Month””โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,032 คน พบว่า

ประชาชนร้อยละ 44.6 ทราบว่าเดือนมิถุนายน เป็น “Pride Month” เดือนแห่งความภาคภูมิใจ ในความหลากหลายทางเพศที่เท่าเทียมของ LGBTQ+ ขณะที่ร้อยละ 55.4 ระบุว่าไม่ทราบ

ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 91.4 ระบุว่าปัจจุบันสังคมไทยเปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 8.6 ระบุว่ายังไม่ค่อยเปิดรับถึงไม่เปิดรับเลย

เมื่อถามว่าปัจจุบันเห็นการขับเคลื่อนทางสังคมไทยเรื่องความหลากหลายทางเพศในเรื่องใดบ้าง ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.2 ระบุว่าเห็นการอนุญาตให้แต่งกายตามเพศสภาพ ในสถานศึกษา และสถานที่ทำงาน รองลงมาร้อยละ 64.4 ระบุว่า เห็นการแสดงออกที่มีต่อกับกลุ่ม LGBTQ+เหมือนปกติทั่วไป โดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลก และร้อยละ 61.2 ระบุว่า เห็นการทำซีรี่ส์วาย มีคู่จิ้นสายวาย มากขึ้น

ส่วนความเห็นเรื่องให้คู่รัก LGBTQ+ได้รับสิทธิทางกฎหมาย นั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 78.6 ระบุว่าเห็นด้วยค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 21.4 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยเลย

ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 75.1 ระบุว่ายอมรับได้ หากมี ลูก หรือคนใน ครอบครัว เป็น LGBTQ+ รองลงมาร้อยละ 16.6 ระบุว่าไม่แน่ใจ และร้อยละ 8.3 ระบุว่า ยอมรับไม่ได้

สำหรับเรื่องที่ห่วง/กังวล หากมี ลูก หรือคนใน ครอบครัว เป็น LGBTQ+ ส่วนใหญ่ร้อยละ 39.9 ระบุว่า กลัวโดนล้อ/สังคมไม่ยอมรับ/เก็บกด รองลงมาร้อยละ 38.6 ระบุว่าห่วงสุขภาพ เช่น กินฮอร์โมน โรคติดต่อ และร้อยละ 30.1 ระบุว่า กลัวถูกหลอกให้รัก

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ทราบหรือไม่ว่า เดือนมิถุนายน เป็น "Pride Month" เดือนแห่งความภาคภูมิใจ ในความหลากหลายทางเพศที่เท่าเทียมของ LGBTQ+

ทราบ ร้อยละ 44.6

ไม่ทราบ ร้อยละ 55.4

2. คิดว่าสังคมไทยในปัจจุบันเปิดรับ/ยอมรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้นเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน

เปิดรับมากขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 91.4

(โดยแบ่งเป็น เปิดรับค่อนข้างมาก ร้อยละ 49.8 และเปิดรับมากที่สุด ร้อยละ 41.6)

ยังไม่ค่อยเปิดรับถึงไม่เปิดรับเลย ร้อยละ 8.6

(โดยแบ่งเป็น ไม่ค่อยเปิดรับ ร้อยละ 7.5 และไม่เปิดรับเลย ร้อยละ 1.1 )

3. ปัจจุบันเห็นการขับเคลื่อนทางสังคมไทยเรื่องความหลากหลายทางเพศในเรื่องใดบ้าง

(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

มีการอนุญาตให้แต่งกายตามเพศสภาพ ในสถานศึกษา และสถานที่ทำงาน ร้อยละ 67.2

การแสดงออกที่มีต่อกับกลุ่ม LGBTQ+เหมือนปกติทั่วไป โดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลก ร้อยละ 64.4

มีการทำซีรี่ส์วาย มีคู่จิ้นสายวาย มากขึ้น ร้อยละ 61.2

การมี พรบ. คู่ชีวิต โดยจะมีการขับเคลื่อนไปสู่ สมรส เท่าเทียม ร้อยละ 55.1

มีการจัดงานการเดินพาเหรดที่เรียกว่า LGBTQ+ Parades หรือ Pride Parade ร้อยละ 40.5

การเปลี่ยนรูป profile ของตนเอง/องค์กร เป็นแถบสีรุ้ง ในช่วง "Pride Month" ร้อยละ 36.7

บริษัทห้างร้านต่างๆ ผลิตสินค้า/จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ร้อยละ 18.0

4. คิดเห็นอย่างไรเรื่องให้คู่รัก LGBTQ+ ได้รับสิทธิทางกฎหมาย

เห็นด้วยค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 78.6

(โดยแบ่งเป็น เห็นด้วยค่อนข้างมาก ร้อยละ 21.9 และเห็นด้วยมากที่สุด ร้อยละ 56.7)

ไม่ค่อยเห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 21.4

(โดยแบ่งเป็น ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 15.5 และไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 5.9 )

5. หากมี ลูก หรือคนใน ครอบครัว เป็น LGBTQ+ จะยอมรับได้หรือไม่

ยอมรับได้ ร้อยละ 75.1

ไม่แน่ใจ ร้อยละ 16.6

ยอมรับไม่ได้ ร้อยละ 8.3

6. หากมี ลูก หรือคนใน ครอบครัว เป็น LGTBQ+ จะเป็นห่วง/กังวลในเรื่องใด

กลัวโดนล้อ/สังคมไม่ยอมรับ/เก็บกด ร้อยละ 39.9

ห่วงสุขภาพ กินฮอร์โมน โรคติดต่อ ร้อยละ 38.6

กลัวถูกหลอกให้รัก ร้อยละ 30.1

อารมณ์รุนแรง/รักแรง/เกลียดแรง ร้อยละ 29.7

การได้รับสิทธิทางกฎหมายเหมือนคู่ชายหญิง ร้อยละ 29.0

ไม่สามารถเลือกทำอาชีพที่ชอบได้ ร้อยละ 15.1

อื่นๆ กลัวไม่มีทายาทสืบสกุล กลัวตอนแก่ลูกจะไม่มีคนอยู่ด้วย ฯลฯ ร้อยละ 1.1

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อความหลากหลายทางเพศ การยอมรับทางสังคมไทยในปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ± 4 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 19-22 มิถุนายน 2566

วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 24 มิถุนายน 2566

 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 มิ.ย. 2566 เวลา : 20:14:40
06-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 6, 2024, 5:46 am