การค้า-อุตสาหกรรม
'พาณิชย์' ร่วมถกอัปเกรด FTA อาเซียน - จีน รอบ 5 คืบหน้าอย่างมาก เล็งปิดดีลปี 67


‘พาณิชย์’ ร่วมถกอัปเกรด FTA อาเซียน-จีน รอบ 5 คืบหน้าอย่างมาก ได้ข้อสรุปบทเพิ่ม ทั้งวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อย และการแข่งขันทางการค้า ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค บทมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค กระบวนการตรวจสอบและรับรอง เจรจาเกินครึ่งทางแล้ว ส่วนการค้าสินค้า วางแนวทางเปิดตลาดเพิ่มเติม เร่งดันการเจรจาให้สรุปผลภายในปี 67 ตามที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนประกาศไว้

 
นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล) ให้เข้าร่วมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 5 ในฐานะประธานฝ่ายอาเซียน ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีอธิบดีกรมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ (นายหวี เปิ่นหลิน) เป็นประธานฝ่ายจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเร่งผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้ามากที่สุด เพื่อให้สามารถสรุปผลได้ภายในปี 2567 ตามที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนประกาศไว้

 
นายรัชวิชญ์ กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้ มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยอาเซียนและจีนสามารถได้ข้อสรุปบทเพิ่มเติม ได้แก่ วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อย และการแข่งขันทางการค้า รวมทั้งสามารถเจรจาบทการคุ้มครองผู้บริโภค และบทมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิคและกระบวนการตรวจสอบและรับรอง ได้เกินครึ่งทางแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในการประชุมครั้งต่อไป สำหรับบทอื่นๆ ได้แก่ 1) การค้าสินค้า 2) เศรษฐกิจดิจิทัล 3) การลงทุน 4) พิธีการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และ 5) เศรษฐกิจสีเขียว มีความคืบหน้ามากขึ้น สำหรับเรื่องการค้าสินค้า อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางการเปิดตลาดสินค้าเพื่อนำมาลดภาษีระหว่างกันเพิ่มเติม

 
สำหรับการเจรจารอบนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของปีนี้ ซึ่งอาเซียนและจีนจะต้องกำหนดแนวทางและเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมในการเจรจาแต่ละรอบ เพื่อให้สามารถสรุปผลได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยผู้แทนการค้าระหว่างประเทศและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน (นายหวัง โช่วเหวิน) ได้ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมและนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนการเจรจาในเรื่องสำคัญ เน้นย้ำการสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน และความร่วมมือในมิติใหม่ๆ ระหว่างกัน

 
“สำหรับไทยในฐานะประธานร่วมฝ่ายอาเซียน จะร่วมผลักดันให้สามารถสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้ โดยได้กำชับให้ทุกคณะทำงานกำหนดเป้าหมายการเจรจาในแต่ละครั้ง และจัดประชุมระหว่างรอบผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อให้การเจรจาคืบหน้ามากที่สุด ก่อนการเจรจาครั้งต่อไปในเดือนเมษายน 2567 ณ สิงคโปร์ ทั้งนี้ การปรับปรุงความตกลงให้มีความทันสมัย จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้ผู้ประกอบการ และเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” นายรัชวิชญ์เสริม

ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 104,964.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปจีน มูลค่า 34,161.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากจีน มูลค่า 70,800.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเหล็กกล้า

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ก.พ. 2567 เวลา : 12:01:11
07-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 7, 2024, 10:47 pm