คริปโตเคอเรนซี่
SCOOP : อยากผันตัวมาเป็น "Trader" เตรียมพร้อมตัวเองอย่างไรดี?


 

 

เทรดเดอร์ (Trader) จัดได้ว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝัน ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ดูมีอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับใคร จะทำงานเวลาไหน ทำที่ไหนก็ย่อมได้ ไม่ว่าจะนั่งเทรดในร้านกาแฟ เทรดระหว่างที่ไปเที่ยวต่างประเทศหรือเทรดอยู่กับบ้านตัวเอง เราก็มีอำนาจในการเลือก และวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามใจชอบ ขอเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์ (หรือพวก Gadget อื่นๆ) และสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็สามารถเทรดได้แล้ว


แต่สำหรับใครที่กำลังคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องง่ายแค่ลงเงินแล้วรอราคาขึ้นก็ถอนออกทำเงินได้แล้ว เราคงต้องขอเขียนคำว่าเบรกเอาไว้ตัวโตๆเลย เพราะ Perspective จากมุมมองคนภายนอกกับหน้างานนั้นต่างกันราวกับคนละโลก มันทั้งต้องอาศัยทั้งการวางแผนการเทรดที่รัดกุมมีความตื่นตัวหรือ stand by รับมือกับปัจจัยภายนอกที่มีผลกับการขึ้นลงของสินทรัพย์ที่เราเทรดอยู่ตลอด และที่ดูเหมือนง่ายแต่จริงๆแล้วยากที่สุดก็คือการดีลกับสภาพอารมณ์และความโลภของเรา ฉะนั้นก่อนที่ผู้อ่านคนไหนจะตกลงปลงใจเปลี่ยนอาชีพไปเป็นเทรดเดอร์ ทาง "AC News" ก็ขอไกด์ไลน์แนะนำการเตรียมตัวที่ดีทั้งกายและใจหากอยากที่จะเดินทางในสายอาชีพนี้

 
1. Money Management การบริหารจัดการเงินของเรา
 
ก่อนที่จะนำเงินทุนก้อนหนึ่งของตัวเองเข้ามาใช้เทรด หากเราไม่มีทักษะในเรื่อง Money Management เลยก็เสี่ยงที่จะทำให้กระแสเงินสดหรือสภาพคล่องของเราเกิดอาการติดขัด ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่สามารถทำให้พอร์ตที่เราลงทุนแตกพ่ายได้ เพราะเราจะเกิดอาการหัวหมุนจับทิศจับทางไม่ถูกในการจัดการรายรับรายจ่ายของเรา สิ่งแรกสำหรับคนที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย คือ ให้เราเขียนแจกแจงออกมาเลยว่าแต่ละเดือนหลักๆเรามีรายรับและรายจ่ายตรงส่วนไหนบ้าง อาจจะเป็นรายได้จากเงินเดือน รายจ่ายอย่างค่าผ่อนรถ ค่าเช่าคอนโด เป็นต้น จากนั้นก็มอนิเตอร์ตัวเองอย่างจริงจังว่าในแต่ละวัน เรามี Transaction ของรายได้และรายจ่ายไปกับอะไร เมื่อเห็นกระแสการเงินของตัวเองเป็นภาพใหญ่ๆออกมา จะทำให้เราประเมินตัวเองได้ว่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเกินตัวไปรึเปล่า ถ้าเห็นว่ามีรายจ่ายส่วนไหนที่เราชอบใช้จ่ายไปโดยไม่คิดก็จะสามารถพิจารณาตัดตรงส่วนนั้นออกไป และทำการวางแผนการใช้เงินใหม่ว่าเราจะนำเงินที่ได้ในแต่ละเดือนหรือที่มีอยู่ไปใช้ทำอะไรบ้าง

และเรื่องของเงินสำรอง ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันคือเบาะรองรับ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้เราไม่สามารถทำงานหาเงินได้ เช่น เกิดอุบัติเหตุ เกิดอาการเจ็บป่วยจนต้องหยุดงานหรือการโดนให้ออกจากงาน โดยเฉพาะสำหรับการเป็น Trader หากเรามีการเทรดผิดทางที่ทำให้เราขาดทุน หรือแย่ที่สุดคือเงินทุนก้อนนั้นหายไปเลย เงินสำรองตรงส่วนนี้ก็จะสามารถต่อชีวิตของเราให้ดำเนินต่อได้อย่างไม่ติดขัด ซึ่งเราควรมีเงินสด (หรือสินทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ที่ถอนออกมาใช้ได้ทันที ห้ามเอาเงินไปวางในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือใช้เวลาในการถอนเด็ดขาด) สำรองใช้ในยามฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เดือนของค่าใช้จ่ายปกติ เช่น เราประเมินว่ารายจ่ายทั้งหมดของตัวเองอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท ก็แปลว่าควรมีเงินสำรองเอาไว้อย่างน้อยเป็นจำนวน 120,000 บาท เป็นต้น

 
2. Swing Trade หรือ Day Trade? เลือกรูปแบบการเทรดให้เหมาะสม
  

 
การเทรดของ Swing Trading กับ Day Trading นั้น มีความแตกต่างกัน โดย Swing Trading หรือ สวิงเทรด คือ การเทรดในลักษณะ “ย่อซื้อ” โดยมีการเข้าซื้อและขายทำกำไรในช่วงที่มีการแกว่งของราคาในระยะเวลาสั้น-กลาง (2 วัน - 3 สัปดาห์) มีการใช้เครื่องมือทาง Technical Analysis หรือการดูกราฟเชิงเทคนิคเข้ามาประกอบพิจารณาการซื้อขาย ซึ่งการเทรดในลักษณะนี้จะเป็นการขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวกลับตามภาพด้านบน ที่เราจะเข้าซื้อ หรือเปิด Long ตรงช่วงต่ำสุดของรอบ Swing Lows และขายออก หรือเปิด Short ตรงจุดสูงสุดของรอบ Swing Highs เป็นการเก็บรอบสวิงขึ้นลงสั้นๆ ไม่ใช่การรันเทรนกราฟที่เอาเงินไปแช่ไว้ในระยะยาว

ส่วน Day Trading หรือเดย์เทรด คือ เป็นการเทรดที่ซื้อเข้าและขายออกภายในวันเดียวตามชื่อของมัน ซึ่งมีระยะเวลาที่สั้นกว่าการสวิงเทรด ทำให้ลักษณะการเทรดจะเป็นการเข้าเร็วออกเร็วด้วยความไวแสง (หวังส่วนต่างของราคา) และส่วนมากจะทำการซื้อขายเข้าออกหลายๆ รอบภายใน 1 วัน

หากใครที่ไม่ชอบจดจ้องอยู่บนหน้าคอมทั้งวัน และเงินทุนไม่สูงนักก็อาจจะพิจารณาใช้การเทรดแบบ Swing Trading แต่ถ้าใครเป็นสายซิ่งต้องการผลตอบแทนเร็วๆ ในวันเดียว รับมือกับความเครียดได้สูงกว่า (เพราะต้องหาจังหวะเข้าออกอย่างรวดเร็ว) และมีเงินทุนที่สูงกว่า Day Trading ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับเรา เพราะสมมติ ถ้าเราต้องการผลตอบแทนเป็นจำนวน 10,000 บาทภายในวันนั้นเลย การเทรดด้วยเงินก้อนใหญ่เป็นจำนวน 1,000,000 บาท หากขึ้นมาแค่ 1% ก็สามารถปิดจ็อบได้แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเพียงแค่มีเงินเยอะก็สามารถทำได้ เพราะคนที่จะเป็นเดย์เทรดยังต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์อย่างมากในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของทิศทางการขึ้นลงของราคา ฉะนั้นถ้าเกิดยังมีชั่วโมงบินไม่มากพอก็ต้องศึกษาการดูกราฟให้เชี่ยวชาญเสียก่อน

 
3. วางแผนการเทรดทุกครั้ง
 
เวลาจะขับรถเดินทางไปที่สถานที่ใด จำเป็นจะต้องมี GPS คอยไกด์ทางให้เราว่าควรจะขับไปทางไหนบ้าง เช่นเดียวกับการเทรด เราจำเป็นต้องมีการวางแผนทิศทางการเทรดล่วงหน้าเป็นกิจจะลักษณะเอาไว้ก่อน เพื่อที่แผนนั้นจะไกด์ทางเราว่าควรจะเทรดเข้าออกอย่างไร หรือมีการรับมือยังไงหากกราฟวิ่งผิดทาง  เราจึงควรทั้งศึกษาข่าวล่วงหน้าว่าหุ้น หรือเหรียญคริปโตสกุลไหน กำลังมีข่าวดี มีข่าวร้าย หรือจะมี Event อะไรที่ส่งผลกับสินทรัพย์นั้นๆเกิดขึ้น ดูแนวกราฟล่วงหน้าโดยใช้เครื่องมือ Technical Analysis วางจุด TP (Take Profit) ทำกำไรถอนทุนออก และวางจุด SL (Stop Loss) หรือจุดยอมแพ้หากมีการปรับตัวราคาต่ำลงกว่าจุดที่เราเข้าจนหลุดแนวรับ หากเราวางแผนเป็นระบบระเบียบในทุกๆครั้งที่เทรด จะทำให้เราสามารถรักษาเงินต้นที่ใช้ในการเทรด และมีโอกาสในการทำกำไรได้สม่ำเสมอ (แต่ถ้าวางแผนแล้วยังมีการเทรดผิดทางบ้างก็เป็นเรื่องปกติสำหรับอาชีพเทรด) แต่ถ้าไม่มีการวางแผนการเทรดไว้ก่อนเลย อาศัยมั่วสุ่มเข้าหน้างาน โดยหวังพึ่งดวงอย่างเดียว ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการเทรดแล้ว แต่เป็นเพียง“การพนัน” ที่แทงขึ้นแทงลงแทน ไม่มีเหตุผลและการวิเคราะห์มารองรับ

 
4. เตรียมรับมือกับสภาพอารมณ์และจิตใจของตัวเอง
 
หากเรายังไม่เคยเข้าไปอยู่ในวงการการเทรด ถ้ามองจากมุมมองของบุคคลภายนอก ส่วนใหญ่จะคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องกล้วยๆ ซื้อถูกขายแพง เอาเงินออกก่อนราคาตก หรือแค่ TP ทำกำไรในจุดที่เราพอใจก็ได้เงินแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรยากเลย แต่จริงๆถ้าเราได้อยู่หน้างานที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเองจะรู้เลยว่าการดีลกับอารมณ์และสภาพจิตใจของตัวเองเป็นเรื่องที่ถือว่ายากมากๆ อาจจะยากยิ่งกว่าการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิคด้วยซ้ำ เพราะหลายๆครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในการเทรด คือ เราอาจจะมีประสบการณ์ทำกำไรเร็วเกินไป เมื่อเรากดเอาทุนออก ราคามันยังพุ่งสูงขึ้นไปอีก หรือที่เรียกกันว่า “ขายหมู” เราเกิดการเจ็บใจ เมื่อเทรดในสินทรัพย์อื่นอีกครั้ง เราก็ไม่ยอมตั้งจุด TP ออกเพราะเห็นกำไรทิพย์ ที่พอร์ตของเราขยายขึ้นเรื่อยๆจนเมื่อราคามันถึงจุดหนึ่ง กลับกลายเป็นว่ามันทิ้งดิ่งลงไปจนเราเกิดสถานะ “ติดดอย” แทน ไม่ก็เห็นว่าเหรียญคริปโตสกุลหนึ่งราคาบวกขึ้นอย่างร้อนแรงมากจนมีการตัดสินใจกระโดดเข้าด้วยอารมณ์ความโลภ โดยหวังว่าราคามันคงขึ้นไปอีก แต่ทันทีที่เข้าไป คนที่ถือมาตั้งแต่ต้นๆกลับเทกระจาดขายลงมาเสียอย่างนั้น ทั้งหมดนี้คืออารมณ์ของความโลภและความกลัวเข้ามามีอิทธิพลในการเทรดของเรา บดบังสติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเหตุผล จนทำให้เราเกิดการสูญเสียเงินทุน ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเทรด ฉะนั้นหากตั้งใจเอาไว้แล้วว่าเราจะเปลี่ยนอาชีพมาเป็น Trader จริงๆจังๆ เรื่องของการขายหมูหรือการเทรดผิดทางบ้างมันเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาเงินต้นของเราเอาไว้ให้อยู่ครบต่างหาก เพราะถ้าทุนหายก็เท่ากับว่าหายนะเนื่องจากมันเป็นอาชีพที่ต้องนำเงินมาหล่อเลี้ยงชีวิตเราจริงๆ การตั้งจุดTP แล้วปรากฏว่าเป็นการขายหมูออกไป จึงไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงอะไรนัก

และทั้ง 4 ข้อนี้ก็เป็นคำแนะนำเบื้องต้นที่ทาง AC News ได้ยกมาแนะนำให้กับผู้อ่านที่สนใจอยากจะเป็น Trader เพราะการเตรียมพร้อม และจูน Mindset ของตัวเราก่อนกระโดดเข้าไปยังสายอาชีพนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย หากอยากจะใช้ชีวิตบนเส้นทางนี้ได้แบบยั่งยืน

 

บันทึกโดย : วันที่ : 01 พ.ค. 2565 เวลา : 11:00:57
02-05-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ทองเปิดตลาด (1 พ.ค.67) ลดพรวด 300 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,850 บาท

2. ประเทศไทยอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 44 องศา ในภาคเหนือ - ภาคอีสาน - ภาคกลาง ส่วนกรุงเทพปริมณฑล 42 องศา ภาคตะวันออก 43 องศา

3. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (30 เม.ย.67) ร่วง 570.17 จุด ถูกกดดันจากต้นทุนแรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาด

4. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (30 เม.ย.67) ร่วง 54.80 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายทอง หลังอิสราเอล-ฮามาส เจรจาหยุดยิง

5. ตลาดหุ้นไทยปิด(30 เม.ย.67) บวก 5.98 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,367.95 จุด

6. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 เม.ย.67) บวก 8.38 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,370.35 จุด

7. MTS Gold คาดว่าวันนี้ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบใกล้เคียงเดิมระหว่างแนวรับที่ระดับ 2,300 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,345 เหรียญ

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.95-37.20 บาท/ดอลลาร์

10. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (29 เม.ย.67) บวก 10.50 เหรียญ จับตาประชุมเฟด - ถ้อยแถลงพาวเวล หาสัญญาณลดดอกเบี้ยครั้งแรกปีนี้

11. "ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคกลาง" ร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 44 องศา ภาคตะวันออก มีฝน 10% ภาคใต้ 10-20%

12. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (29 เม.ย.67) บวก 146.43 จุด รับแรงหนุนหุ้นเทสลา-หุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (30 เม.ย. 67) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 41,500 บาท

14. ตลาดหุ้นไทยเปิด (30 เม.ย.67) บวก 3.54 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,365.51 จุด

15. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางเขน 2

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 2, 2024, 4:27 am