แบงก์-นอนแบงก์
เอไอจีคืืนสังเวียนประกันวินาศภัย ล้างแบรนด์ "ชาร์ทิส" พร้อมเดินหน้าลุยตลาดไทย มั่นใจโตต่อเนื่องปีละ 15% ต่อกัน 5 ปีรวด


หลังจากแบรนด์ประกันภัยรายยักษ์สัญชาติอเมริกันอย่าง "อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป" หรือ "เอไอจี" ที่เคยประสบปัญหาวิกฤตการเงินที่เคยถาโถมเข้าใส่จนเซและรัฐบาลสหรัฐต้องเข้ามาอุ้มด้วยเงินอัดฉีดก้อนโตถึง 1.8 แสนล้านดอลลาร์ และหลบร้อนไปใช้แบรนด์ "ชาร์ทิส" อยู่พักใหญ่

กระทั่งล่าสุด ผ่านไป 4 ปี กับแผนการผ่าตัดองค์กรครั้งใหญ่จนใช้คืนเงินกู้ก้อนมโหฬารดังกล่าวพร้อมกับดอกเบี้ยไปอีก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ได้เรียบร้อย

วันนี้จึงคืนสังเวียนกลับมาใช้แบรนด์ "เอไอจี" อีกครั้ง ด้วยมุมมองและประสบการณ์ที่แน่นกว่าเดิม พร้อมกับทยอยประกาศรีแบรนด์ใน 90 ประเทศ

 

นายโรนัลด์ เอ ฮิวดอน ประธานกลุ่ม เอไอจี ประเทศไทย และผู้จัดการสำนักงานประเทศไทย บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ อธิบายว่า การกลับมาใช้แบรนด์นี้ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ สถานการณ์ปัจจุบันบริษัทได้ชำระคืนเงินกู้จากรัฐบาลสหรัฐหมดเรียบร้อยแล้ว และการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าก็ยังคงความเชื่อมั่นในแบรนด์ "เอไอจี" อย่างเหนียวแน่น และสนับสนุนให้กลับมาใช้แบรนด์เดิม จึงทำให้ทางกรุ๊ปตัดสินใจรีแบรนด์ในครั้งนี้

สำหรับในประเทศไทยก็เช่นกันที่เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น บริษัท เอไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทในเครือเดียวกันอย่างนิวแฮมพ์เชอร์ฯ ที่เป็นสาขาจากบริษัทแม่ในต่างประเทศนั้น ก็อยู่ในระหว่างเปลี่ยนชื่อบริษัทให้มาเป็นชื่อที่ล้อไปในภาพเดียวกันเพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งในแบรนด์ "เอไอจี" ร่วมกัน

"แม้ที่ผ่านมาเราจะใช้แบรนด์ ชาร์ทิส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นผลลบกับธุรกิจประกันภัยแต่อย่างใด เพราะผลงานในปี 2555 นั้นก็ยังคงเติบโตได้ดีมาก เรามีเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นถึง 22% จากปีก่อนหน้า และภายใต้แผน 5 ปีที่เราวางไว้ก็เชื่อมั่นว่าจะยังมีทิศทางที่ดี น่าจะขยายตัวได้ประมาณ 15-16% ต่อปีตลอดช่วงเวลาดังกล่าว"

นายโรนัลด์อธิบายเพิ่มเติมถึงแผนการเติบโตดังกล่าวว่า บริษัทจะอาศัยการเติบโตทั้งฝั่งรับประกันภัยลูกค้ารายใหญ่รวมถึงโครงการลงทุนต่างๆ ซึ่งบริษัทมีจุดแข็งที่เงินกองทุนขนาดใหญ่ที่สามารถรับเสี่ยงภัยได้สูงสุดถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ต่อภัย หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท จึงเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันที่เชื่อมั่นว่าไม่มีบริษัทอื่นๆ เทียบได้ 

ขณะเดียวกันในตลาดประกันภัยรายย่อย บริษัทถือว่าเป็นผู้นำในตลาดประกันภัยการเดินทางที่มีเครือข่ายบริการได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก ประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี เช่นกัน ซึ่งสัดส่วนงานรับประกันภัยในปัจจุบันถือว่าเหมาะสมแล้ว ฉะนั้น การเติบโตในช่วง 5 ปีข้างหน้าคงไม่ได้มีแผนจะปรับพอร์ตแต่อย่างใด แต่เน้นเติบโตในตลาดที่มีศักยภาพจะเติบโตมากกว่า

"แม้ปัจจุบันเราจะมี 2 บริษััทประกันภัยภายใต้แบรนด์เดียวกัน แต่ก็ไม่มีนโยบายที่จะรวมทั้งสองบริษัทนี้เข้าด้วยกัน เนื่องจากแบ่งกันทำตลาดได้อย่างครอบคลุม โดยบริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ฯ ซึ่งมีสถานะเป็นสาขาของบริษัทแม่ในนสหรัฐจะมีขนาดเงินกองทุนใหญ่ สามารถรองรับงานประกันภัยรายใหญ่ได้ดี แต่ก็จะติดข้อจำกัดด้านการเปิดสาขาเพิ่มเติมสำหรับทำตลาดรายย่อย ก็จะให้บริษัท เอไอจีฯ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งในไทยเป็นแกนหลักรุกตลาดรายย่อยได้อย่างดี ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องรวมทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน ก็สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง" นายโรนัลด์กล่าว


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 มี.ค. 2556 เวลา : 16:12:41
17-04-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 เม.ย.68) ลบ 1.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,137.81 จุด

2. ทั่วไทยวันนี้ฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ ฝนตกหนัก 60-70% ภาคตะวันออก 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน 30%

3. MTS Gold คาดจะมีกรอบแนวรับ ที่ 2,280 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 3,380 เหรียญ

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 106 เหรียญ รับดอลลาร์อ่อนค่า-แห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.68) ร่วง 699.57 จุด หลังประธานเฟดเตือนมาตรการภาษีทรัมป์ฉุดเศรษฐกิจอ่อนแอลง

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 เม.ย.68) ลบ 2.53 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,136.82 จุด

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 เม.ย.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (17 เม.ย. 68) พุ่งขึ้น 500 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 53,250 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยปิด (16 เม.ย.68) บวก 10.24 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,138.90 จุด

11. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (16 เม.ย.68) ลบ 0.52 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,128.14 จุด

12. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยมีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 3,300 เหรียญ

13. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (15 เม.ย.68) บวก 14.10 เหรียญ นักลงทุนแห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

14. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (15 เม.ย.68) ร่วง 155.83 จุด ถูกกดดันความไม่แน่นอนมาตรการภาษีทรัมป์

15. อุตุฯเตือน ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนองวันนี้ 60-70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคตะวันออก 40% ภาคกลาง 30% ภาคอีสาน 20% ภาคเหนือ 10%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 17, 2025, 4:14 pm