เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ส่งออกไทยเดือน เม.ย. โตต่อเนื่องที่ 12.3%YOY ตามความต้องการสินค้าทั่วโลกและอานิสงส์ราคาน้ำมัน


มูลค่าการส่งออกไทยเดือน เม.. ขยายตัวสูงต่อเนื่องที่ 12.3%YOY นำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์และพลาสติก ที่เติบโต 39%YOY และ 20.4%YOY ตามลำดับ ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงเติบโตสอดคล้องกับภาคการผลิตของโลก เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 23.9%YOY และ 4.2%YOY ตามลำดับ นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าเกษตรกลับมาขยายตัวได้ที่ 9.8%YOY จากการส่งออกผักและผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ที่ขยายตัว 50.7%YOY และไก่สดแช่แข็งและแปรรูปที่ขยายตัว 12.4%YOY รวมถึงการส่งออกข้าวและมันสำปะหลังที่ขยายตัวได้สูงจากผลของราคา อย่างไรก็ตาม การส่งออกยางพาราและน้ำตาลยังหดตัวลงที่ 12.3%YOY และ 35.8%YOY ตามลำดับ อันเนื่องมาจากราคาในตลาดโลกที่ตกต่ำ ทั้งนี้ การส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2018 เติบโตที่ 11.5%YOY

กลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยังเติบโตได้จากตลาดอื่นๆ ด้านการส่งออกเครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ (แผงโซลาร์) และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไปยังสหรัฐฯ หดตัว 30.1%, 42.7% และ 3.3% ตามลำดับ อันเนื่องมาจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (safeguard tariff) อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าดังกล่าวในภาพรวมยังสามารถเติบโตได้ที่ 8.4%, 3.5%, และ 20.6% ตามลำดับ เนื่องจากผู้ส่งออกสามารถกระจายสินค้าไปยังตลาดอื่นนอกจากสหรัฐฯ ได้ ประกอบกับสินค้าเหล็กได้รับผลกระทบเพียงบางรายการ

มูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 20.4%YOY จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 60.7%YOY ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังขยายตัวกว่า 36.6%YOY ตามแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มดังกล่าว ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) ขยายตัว 18.1%YOY ทั้งนี้ การนำเข้าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2018 เติบโตที่ 17.2%YOY ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นทำให้การค้าขาดดุล 1,283 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนเม..

 

 

อีไอซีคาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 7.5% โดยเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ดีในปี 2018 จะส่งผลให้ความต้องการสินค้าทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน

อาจได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยอีไอซีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2018 อยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 28%YOY ในขณะที่ผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อไทยยังมีค่อนข้างจำกัด และสามารถชดเชยด้วยการส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ที่ยังขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ดี อีไอซีมองว่านโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ยังถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

เงินบาทอ่อนค่าลงลดแรงกดดันต่อรายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกไทย มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทของไทยในช่วง 4 เดือนแรกเติบโตเพียง 0.6%YOY แม้มูลค่าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ จะเติบโตได้สูง เป็นผลมาจากเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าในช่วงดังกล่าวถึง 9.9%YOY จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มีการอ่อนค่าลงราว 3%MOM นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้แรงกดดันต่อรายได้เงินบาทของผู้ส่งออกไทยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ทั้งนี้ การอ่อนค่าของค่าเงินบาทมีสาเหตุมาจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีและทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มตึงตัวชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม อีไอซีประเมินว่าเงินบาทยังมีความผันผวนซึ่งรวมถึงโอกาสในการกลับมาแข็งค่าจากหลายปัจจัย อาทิ ความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงินโลกที่อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาอ่อนค่า และปัจจัยพื้นฐานด้านเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยที่อยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง

อีไอซีคาดว่ามูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2018 จะขยายตัวที่ 12.2% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนในประเทศทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้ ประกอบกับมูลค่าการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าที่คาดว่าจะขยายตัวสูงจะมีส่วนทำให้การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในปีนี้ลดลง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 พ.ค. 2561 เวลา : 17:24:51
08-05-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ข่าวดี!!! พรุ่งนี้ น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ลด 50 สตางค์/ลิตร

2. ตลาดหุ้นปิด (7 พ.ค.67) บวก 6.45 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,376.37 จุด

3. ประกาศ กปน.: 14 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,300 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,340 เหรียญ

5. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (7 พ.ค.67) บวก 13.73 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,383.65 จุด

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.60-36.85 บาท/ดอลลาร์

7. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (6 พ.ค.67) บวก 22.60 เหรียญ รับตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้-บอนด์ยีลด์พุ่งหนุนราคาทอง

8. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (6 พ.ค.67) บวก 176.59 จุด รับแรงหนุนตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้ หลังตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (7 พ.ค.67) บวก 5.37 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,375.29 จุด

10. ทองเปิดตลาด (7 พ.ค. 67) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. อุตุฯเตือนประเทศไทยวันนี้ "พายุฝนฟ้าคะนอง" ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง ภาคอีสาน ฝน 60% กรุงเทพปริมณฑล 30% ภาคอื่นๆ 40%

12. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (7 พ.ค.67) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์

13. ทองเปิดตลาด (6 พ.ค.67) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,650 บาท

14. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีพายุฝนฟ้าคะนองในภาคตะวันออก 40% และภาคอีสาน-ภาคใต้ 30% ส่วนกรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง ฝน 20% ภาคเหนือ 10%

15. ข่าวดี! พรุ่งนี้ ปตท.- บางจาก ลดราคาน้ำมัน 50 สตางค์/ลิตร

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 8, 2024, 8:34 am