แบงก์-นอนแบงก์
SCBตั้งเป้าสิ้นปี 2562 ขยายฐานลูกค้า SCB Wealth เพิ่ม6-7%


ธนาคารไทยพาณิชย์ ชู 4กลยุทธ์สำคัญขับเคลื่อนธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี 2562 นำเวลธ์เทคเสริมแกร่งแพลตฟอร์มการให้บริการ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านเวลธ์แบงก์กิ้งของเมืองไทย ตั้งเป้าสิ้นปี2562 ขยายฐานลูกค้า SCB Wealth เพิ่มประมาณ 6-7% 


ธนาคารไทยพาณิชย์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มสานต่อยุทธศาสตร์องค์กรผลักดันธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)หนึ่งในธุรกิจหลักสำคัญที่จะสร้างการเติบโตให้กับธนาคารทดแทนธุรกิจรูปแบบเดิม (New Normal of Growth) ให้มีความแข็งแกร่งรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด พร้อมชูกลยุทธ์ในการรุกตลาดเวลธ์แมนเนจเม้นท์ของเมืองไทย ผ่าน 4 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ 1) People ทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพ 2) Touchpoint เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการผ่าน SCB Investment Center ศูนย์บริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร 3) Solution ที่ครบเครื่องและเปิดกว้างด้านการลงทุนด้วยการนำเสนอกองทุนที่หลากหลายและดีที่สุดสำหรับลูกค้า 4) Wealth Tech ดิจิทัลเทคโนโลยีทันสมัย ชูโรงด้วย iOnboard, wPlan และ EASY Invest ที่จะยกระดับประสบการณ์ด้านการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลแบบครบเครื่อง ตั้งเป้าสิ้นปี2562ขยายฐานลูกค้า SCB Wealth เพิ่มประมาณ 6-7%จากจำนวนลูกค้า3แสนรายในปัจจุบัน ปูทางสู่การเป็นผู้นำเวลธ์แบงก์กิ้งของเมืองไทย

 
 
 
นางสาวศลิษา หาญพานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานผลิตภัณฑ์การลงทุนและเงินฝาก ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Segment ManagementและStrategic Planning ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า"ภาพรวมของตลาดลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งหรือกลุ่มเวลธ์ (Wealth) ในประเทศไทย ที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าอยู่ประมาณ 711,400 คน คิดเป็น 1% ของประชากรทั้งประเทศ แต่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ประมาณ 15 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของทั้งประเทศ โดยธนาคารมองว่าธุรกิจลูกค้ากลุ่มเวลธ์ในประเทศไทยยังมีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตอีกมาก ผนวกกับเทรนด์โลกด้านการให้บริการเวลธ์แมนเนจเม้นท์ (Global Wealth Management Trend) พบว่าลูกค้ามีความต้องการการผสมผสานระหว่างที่ปรึกษาด้านการลงทุนและเครื่องมือในการช่วยบริหารความมั่งคั่ง และจากยุทธศาสตร์องค์กรที่มุ่งผลักดันและให้ความสำคัญกับธุรกิจบริหารความมั่งคั่งซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักสำคัญที่จะสร้างการเติบโตให้กับธนาคาร รวมถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้สามารถตอบโจทย์และทันกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”

“ในปี 2562 กลุ่มธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง หรือ SCB Wealth จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี พร้อมพัฒนาบุคลากรระดับมืออาชีพ และบริการที่มีคุณภาพ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ด้านการเงินที่ดีขึ้น และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมที่สุด ผ่าน 4 กลยุทธ์แกนหลักอันเป็นหัวใจสู่ความสำเร็จ ได้แก่ 1) People ทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพ 2) Touchpoint เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการผ่าน SCB Investment Center ศูนย์บริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร 3) Solution ที่ครบเครื่องและเปิดกว้างด้านการลงทุนด้วยการนำเสนอกองทุนที่หลากหลายและดีที่สุดสำหรับลูกค้า 4) Wealth Tech ดิจิทัลเทคโนโลยีทันสมัย ชูโรงด้วย iOnboard, wPlan และ EASY Invest

4 กลยุทธ์หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเวลธ์ของไทยพาณิชย์ปี 2562

1. People ทีมที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลระดับมืออาชีพ (Relationship Manager Team) กว่า 1,700 คน ซึ่งผ่านการอบรมหลักสูตรเฉพาะทาง SCB Wealth Academy ใน5ด้านสำคัญ ได้แก่ Wealth Integrity, Wealth Goal Based, Wealth Expertise, Wealth Trust และ Customer Management พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำการลงทุนแบบมืออาชีพมีศักยภาพในการดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง

2. Touchpoint เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการผ่าน SCB Investment Center ศูนย์บริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร ซึ่งเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านการลงทุนอันทันสมัย จำนวน 14 แห่ง และ Wealth Branch หรือสาขาที่โฟกัสเรื่องเวลธ์กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้ลูกค้าทั่วประเทศสามารถเข้าถึงเป้าหมายทางการเงิน

3. Solution ที่ครบเครื่องและเปิดกว้างด้านการลงทุนด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายซึ่งให้กับลูกค้า คัดสรรโดยทีม SCB CIO Office คลังสมองด้านการลงทุนของธนาคารไทยพาณิชย์ อาทิ Structure Product, Complex Return, Infra structured, REITS เป็นต้น

4. Wealth Tech หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่น่าจับตามอง ซึ่งจะกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในการเสริมขีดความสามารถ และพัฒนารูปแบบการให้บริการ รวมถึงประสบการณ์ด้านการบริหารความมั่งคั่งกับลูกค้ายุคดิจิทัลได้แบบไร้รอยต่อ (Seamless & Smart Wealth Management Experience) ประเดิมด้วย 3 แพลตฟอร์มสำคัญ ได้แก่

 
 
4.1 iOnboard แพลตฟอร์มสำคัญที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การเปิดบัญชีด้วยขั้นตอนที่ง่าย รวดเร็ว ครอบคลุมทุกบัญชีในการบริหารความมั่งคั่ง ได้แก่บัญชีเงินฝากทุกประเภท บัญชีกองทุนกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ (SCBAM) และบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดดเด่นด้วยเทคโนโลยียืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำ Facial Recognition แบบเรียลไทม์ ลดขั้นตอนการกรอกและปริมาณเอกสารที่ใช้ (Paperless) รวมถึงลดระยะเวลาในการเปิดบัญชีเหลือเพียง 9 นาที เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการลงนามเพียงครั้งเดียวผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

4.2 wPlan เครื่องมือสำคัญที่เปรียบเสมือนยกคลังสมองด้านการลงทุนแบบเจาะลึกรอบด้านมาไว้ตรงหน้าลูกค้าโดยมีทีมที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล (RM) คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ให้บริการวางแผนการลงทุนแบบรอบด้าน (Holistic Planning) ที่รวบรวมกลยุทธ์และมุมมองการลงทุนจากทีม SCB CIO Office ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน (Expert) ที่เจาะลึกและทันเหตุการณ์ ที่มาพร้อมกับรายละเอียดผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างชัดเจน (Transparent) ลูกค้าสามารถลงทุนได้หลากหลายและปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนได้ตามต้องการ (Flexibility)

4.3 Easy Invest เปลี่ยนทุกประสบการณ์การลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายสามารถลงทุนได้ด้วยตัวคุณเอง (D.I.Y.) ที่ครบและง่ายที่สุด ผ่าน SCB EASY นำร่องด้วย Robo-advisor ที่มีจุดเด่นด้านการตั้งเป้าหมายเพื่อออกแบบแผนการลงทุนเฉพาะบุคคลแบบอัตโนมัติ ส่งเสริมให้นักลงทุนลงทุนอย่างมีวินัย สร้างนิสัยการออมเพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จ โดยลงทุนขั้นต่ำ 3,000 บาท

“หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของไทยพาณิชย์ในการรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งคือการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเวลธ์ให้เติบโตไปพร้อมกับก้าวใหม่ของธนาคาร มุ่งมั่นพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรระดับมืออาชีพและบริการ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ด้านการบริหารความมั่งคั่งที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า โดยคาดว่าภายใต้ 4 กลยุทธ์หลักของ SCB Wealth ในการทำธุรกิจจะช่วยผลักดันให้สิ้นปี 2562 จะสามารถขยายฐานลูกค้า SCB Wealth เพิ่มขึ้นประมาณ 6-7% และผลักดันให้ธนาคารสามารถครองใจลูกค้าและขึ้นเป็นผู้นำด้านเวลธ์แบงก์กิ้งของเมืองไทยได้ในที่สุด” นางสาวศลิษา กล่าวเสริม

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ค. 2562 เวลา : 17:38:13
11-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 17 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนศรีนครินทร์ตัดถนนหนามแดง-บางพลี

2. ประกาศ กปน.: 19 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประเสริฐมนูกิจ

3. ตลาดหุ้นปิด (9 ก.ค.68) ลบ 5.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,110.40 จุด

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 ก.ค.68) ลบ 4.05 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,111.60 จุด

5. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,290 เหรียญ และ 3,340 เหรียญ

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (9 ก.ค.68) ลดลง 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,800 บาท

7. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (9 ก.ค.68) บวก 0.60 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,116.25 จุด

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (8 ก.ค.68) ร่วง 25.90 เหรียญ เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลลาร์แข็งค่า

9. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (8 ก.ค.68) ร่วง 165.60 จุด ทรัมป์ไม่ขยายเส้นตายรีดภาษีการค้า 1 ส.ค.

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (9 ก.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.57 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.75บาท/ดอลลาร์

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (9 ก.ค.68) ฝนตกหนักในภาคตะวันออก 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคกลาง 60% ภาคใต้ 40-60%

13. ประกาศ กปน.: 12 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

14. ตลาดหุ้นปิด (8 ก.ค.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,115.65 จุด

15. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,300 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,350 เหรียญ ยังคงแนะนำให้ทำกำไรในกรอบแคบ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 11, 2025, 6:20 am