เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
แค่ออมเงินตามสูตร...ส่งลูกเรียนนอกกี่คนก็ได้


คู่สามีภรรยารุ่นใหม่ในปัจจุบันหลายต่อหลายคู่ตัดสินใจว่าไม่มีลูก โดยหลายคู่ให้เหตุผลว่าเพราะหลังจากคำนวณค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันแรกเกิดเมื่อลูกน้อยลืมตามาดูโลกจนถึงวันที่ลูก 1 คนเรียนจบปริญญาตรี เมื่อกดเครื่องคิดเลขแล้ว เป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว พบว่ามีตัวเลขค่าใช้จ่ายสูงมากและตัวเลขค่าใช้จ่ายนี้ก็ยังมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอัตราเงินเฟ้อ


แต่หัวอกของคนเป็นพ่อแม่หากมัวแต่รีรอให้มีความพร้อมอาจจะทำให้ลูกเสียโอกาส ดังนั้นมิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงหาแนวทางดีๆ“4 ขั้นตอนวางแผน ออมเงินเพื่อลูก”มาฝาก

ถ้าคุณเริ่มตั้งเป้าหมายการมีลูกคุณควรกำหนดว่าคุณต้องการมีลูกจำนวนกี่คนและเมื่อไหร่ โดยพิจารณาความสามารถในการหารายได้และความมั่นคงในหน้าที่การงาน เพื่อประเมินว่าคุณสามารถจะรับภาระการเลี้ยงดูลูกทุกคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้หรือไม่

จากนั้นคุณก็ต้องทำการสำรวจค่าใช้จ่าย โดยการศึกษาค่าใช้จ่ายตลอดช่วงชีวิตที่ลูกคุณยังอยู่ภายใต้การดูแลของคุณ จนกว่าจะเติบใหญ่พอที่จะดูแลตัวเองได้ เช่น

ช่วงก่อนวัยเรียนคือช่วงตั้งแต่คุณตั้งครรภ์จนเป็นทารกแบเบาะ เช่น ค่าฝากครรภ์ คลอดลูก วัคซีน เสื้อผ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของเล่น นมผง เงินเดือนพี่เลี้ยง ฯลฯ

ข้อควรระวังคือคุณและคู่ครองควรวางแผน รับมือกับค่ารักษาพยาบาลสำหรับลูกอ่อนที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแต่คุณสามารถแบ่งเบาได้ โดยซื้อประกันสุขภาพสำหรับลูกเตรียมไว้ตั้งแต่แรกเกิดได้เลย

ช่วงวัยเรียนช่วงนี้จะมีภาระค่าใช้จ่ายการศึกษาก้อนใหญ่ที่คุณต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า เช่น ค่าเล่าเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน คอมพิวเตอร์ ค่าขนม รถรับส่ง เรียนพิเศษ เป็นต้น

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรวางแผนเส้นทางการเรียนของลูกให้เหมาะสมกับความสนใจ ความถนัดและความสามารถของลูก ตั้งแต่ระดับประถม มัธยมและมหาวิทยาลัย โดยคุณควรวางแผนด้วยว่าต้องการส่งลูกเรียนในประเทศหรือต่างประเทศ เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในแต่ละระดับชั้นให้เหมาะสมต่อไป

เมื่อคุณวางแผนค่าใช้จ่ายแล้วคุณควรจัดสรรเงินออมและเงินลงทุน โดยคุณต้องเริ่มหักเงินออมและเงินลงทุนออกจากรายได้ของคุณและคู่ครองก่อน แล้วค่อยลงมือวางแผนการเงินทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ต้องการใช้เงินในแต่ละเป้าหมาย เช่น

ช่วงก่อนวัยเรียนซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น 1-3 ปี และมีความสำคัญสูงพลาดไม่ได้ ดังนั้นควรคำนวณจำนวนเงินออม เพื่อเป้าหมายนี้ในแต่ละเดือนและเลือกออมเงินไว้ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝากออมทรัพย์หรือกองทุนตราสารหนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนเป็นจำนวนมาก เพราะอาจจะกระทบกับเงินก้อนที่ตั้งใจออมไว้เลี้ยงดูในช่วงต้นนี้

ช่วงวัยเรียนโดยเป็นเป้าหมายระยะยาวตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไป สามารถจัดสรรเงินลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ เพราะการลงทุนระยะยาว ช่วยถัวเฉลี่ยความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนได้ดีกว่า เช่น การลงทุนในกองทุนรวม แบบผสมหรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว โดยสามารถวางแผนทยอยลงทุนในแต่ละเดือนและคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนตามข้อมูลในอดีต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นค่าเล่าเรียนในแต่ละระดับชั้นตามที่ตั้งใจไว้

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเป้าหมายคือออมเงินเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีของลูกเป็นเงิน1,000,000 บาทในอีก 18 ปีข้างหน้า

ส่วนแผนออมเงินวิธีที่1 ออมเงินในกองทุนรวมหุ้น ซึ่งเหมาะสำหรับพ่อแม่ที่รับความเสี่ยงได้สูง เพียงแค่แบ่งเงินเดือนละ 1,700 บาท ไปลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ที่ลงทุนโดยอ้างอิง Index Fund หรือกองทุนรวมหุ้นประเภทต่างๆที่มีผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี เมื่อครบ18 ปีก็จะมีเงินทุนการศึกษาก้อนใหญ่นี้ให้ลูกได้สบายๆ

(หมายเหตุ:คำนวณแบบทบต้นทุกเดือน อ้างอิงผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นแบบอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2548-2558 อยู่ที่ 10.46% ต่อปี โดยคุณสามารถปรับผลตอบแทนให้ทันสมัยแล้วมาใส่กับสูตรนี้ได้)

วิธีที่ 2 ออมเงินในประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ซึ่งจะเหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ไม่อยากลงทุนแบบเสี่ยงเกินไปและต้องการวางแผนรับมือกับความไม่แน่นอนของชีวิต ควรศึกษาเงื่อนไขประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ของแต่ละบริษัท

โดยเลือกให้ตรงกับระยะเวลาที่ต้องการใช้เงินและความสามารถการออมให้มากที่สุด เพราะหากคุณเป็นอะไรไปหรือทุพพลภาพถาวรจนขาดรายได้ก็ยังสบายใจว่าจะได้รับเงินก้อนจากทุนประกันที่มีมาส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือจนจบได้ ที่สำคัญคือ วิธีนี้จะได้ประโยชน์ถึง 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 คุ้มครองชีวิตพ่อแม่ด้วยทุนประกัน ต่อที่ 2 ได้รับเงินออมคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา และต่อที่ 3 ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีค่าเบี้ยประกันชีวิตตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีอีกด้วย

โดยคุณควรอัพเดทสถานการณ์และปรับแผนการเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสถานะการเงินของเรา ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาศักยภาพของลูกเราในอนาคต เช่น ลูกมีพรสวรรค์ด้านดนตรีก็ส่งเสริมให้เรียนพิเศษเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าและวางแผนการออมเงินเพื่ออนาคตของลูกเพิ่มเติมอีกด้านหนึ่ง

ดังนั้น“มีลูกเมื่อพร้อม”คุณก็จะสามารถทำได้ง่ายๆแค่เริ่มวางแผนบุตรตั้งแต่แต่งงาน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ย่อมสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกคุณและสร้างความสุขในครอบครัวคุณได้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 มิ.ย. 2562 เวลา : 07:47:25
27-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (26 เม.ย.67) ลบ 4.33 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.94 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวิภาวดีรังสิต

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

9. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

10. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

11. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

12. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

13. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 5:42 am