หุ้นทอง
"หุ้นโอกาสวิ่งขึ้น" ลุ้นดีดกลับถ้าไม่ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน - ทองเป้าหมายถัดไปขึ้นได้ถึง 1,565 ดอลล์


ดัชนียังสามารถดีดกลับขึ้นมาได้หลังจากหลุดลงไปต่ำกว่าระดับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นการดีดกลับหลังจากเกิดสัญญาณโดจิ โดยดัชนีสามารถรีบาวด์ กลับขึ้นมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,625 จุดและปิดเหนือได้ โดยที่ดัชนียังปิดได้ในระดับสูงของวันอีกด้วย

 

 

 

โดยมีโอกาสที่วันนี้(19ส.ค.) ดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อได้ หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันซึ่งวันนี้จะอ่อนตัวลงมาแถวๆ 1,621 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,642 จุด ก่อนขยับขึ้นปิด GAP และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,649 จุดต่อไป

 

สำหรับหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น AMA ซึ่งมีแนวรับ 7.20 บาท และมีแนวต้าน 7.60 , 8.15 บาท โดยระดับราคาสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ หลังจากอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ เกิดเป็นสัญญาณ Double Bottom ในขณะที่ MACD ที่หลุดลงมาต่ำกว่าศูนย์เล็กน้อยกำลังมีลุ้นดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากหลุดลงไป 2 วัน

 

หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 7.20 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 7.60 บาทและ 8.15 บาทต่อไป

 

ส่วนหุ้น TQM ซึ่งมีแนวรับ 44.00-43.50 บาท และมีแนวต้าน 45.50-45.75 ,49.25 บาท โดยมีระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ ทำให้ MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือระดับศูนย์ได้อีกครั้งหลังจากหลุดลงไป 2 วัน อีกทั้งยังดีดกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ได้อีกด้วย

 

หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 44.00-43.50 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 45.50-45.75 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 49.25 บาทต่อไป

 

ด้านหุ้น VL โดยมีแนวรับ 1.54-1.51 บาท และมีแนวต้าน 1.58-1.61 บาท ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ อีกทั้งยังทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ แม้ว่าจะยังปิดเหนือไม่ได้ ในขณะที่ MACD กำลังมีลุ้นดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์

 

หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1.54-1.51 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1.58-1.61 บาทต่อไป

        

 

 

ส่วนภาวะตลาดทองคำ สัปดาห์ที่ผ่านเมื่อเวลา 12.00 น วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,521.33ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเว 1,497.18ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นถึง24.15ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับขึ้นแรงต่อหลังตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังธนาคารกลางต่างๆทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยและบางช่วงตลาดเกิดสภาวะพันธบัตรดอกเบี้ยระยะยาวต่ำกว่าดอกเบี้ยระยะสั้น (Inverted Yield Curve)

         

โดยราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,480-1,534.08ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำโลกปรับลดลงในช่วงต้นสัปดาห์ หลังสงครามการค้าเริ่มทุเลาลง ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับลงจนใกล้แนวรับที่เราให้ไว้แถว 1,475ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะปรับขึ้นแรงอีกครั้งหลังตลาดหุ้นสหรัฐติดลบกว่า 800 จุดในช่วงกลางสัปดาห์

 

เนื่องจากตลาดยังกังวลจากความยืดเยื้อของสงครามการค้าที่กระทบต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก จนต้องลดดอกเบี้ยกันหายประเทศ และทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี (inverted yield curve) ซึ่งสภาวะแบบนี้ 5 ใน 7 ครั้งหลังสุดจะตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย จึงทำให้เกิดแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาอีกครั้งจนทองคำพุ่งเหนือ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะย่อตัวลงมาบ้างหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปลายสัปดาห์เริ่มออกมาดีกว่าคาดและตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มกลับมาบวกได้

 

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา อ่อนค่าลงต่อ โดยเปลี่ยนแปลงอ่อนค่าราว 0.095 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.885 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.790 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 30.745-30.885

         

ดังนั้นคำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เราได้ทองคำรอบล่าสุดแถว 1,395-1,410ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือได้ซื้อเพิ่มตามทันทีหากราคาปิดสูงกว่า 1,418ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ราคาวิ่งทะลุเป้าหมายแรก 1,460ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปแล้ว ซึ่งราคาขึ้นไปถึงเป้าหมายใหญ่ของปีนี้ที่ให้ไว้บริเวณ 1,520-1,535ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ถือทองคำต่อไป โดยเป้าถัดไปอยู่ที่ 1,565 เดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ในกรณีขายทองคำออกไปแล้ว แนะนำรอซื้อคืนบริเวณ 1,480-1,505ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดต่ำกว่า 1,480ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายทิ้งอออกไปก่อนแล้วรอดูรอบใหม่ โดยเป้าหมายของปีนี้ยังอยู่ที่เดิมบริเวณ 1,520-1,535ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือบริเวณเป้าหมายได้ ยังมีโอกาสขึ้นไปถึง 1,565ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกเป็นเป้าถัดไป

 

สำหรับนักลงทุนระยะยาว ยังแนะนำถือทองคำต่อไป เป้าหมายของปีนี้ยังอยู่1,520-1,535ดอลลาร์ต่อออนซ์ 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ส.ค. 2562 เวลา : 13:41:22
26-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (26 เม.ย.67) ลบ 4.33 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.94 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวิภาวดีรังสิต

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

9. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

10. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

11. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

12. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

13. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 6:47 pm