หุ้นทอง
"หุ้นหลุดมาแถว 1,650 จุด"น่าซื้อเพิ่ม"ทอง"ระยะยาวห็น 1,650 ดอลลาร์


ดัชนีมีความพยายามดีดกลับขึ้นต่อเนื่องทำNew highวันต่อวัน โดยขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมในรอบ 1 เดือนแต่ไม่ผ่านจึงมีแรงขายทำกำไรออกมาตลอดทั้งวัน ทำให้ดัชนีประคองตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,676 จุดไม่ได้ แต่วอลุ่มซื้อขายลดลงพร้อม MACD ที่ดีดกลับใกล้พ้นระดับศูนย์แล้ว


 
 
 
หากวันนี้ (9ก.ย.)ดัชนีอ่อนตัวลงมาแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,660 จุดอีกอาจพอซื้อกลับได้ แต่หากหลุดลงมาถึงแถวๆ1,650 จุดน่าซื้อเพิ่มอย่างมาก สามารถลุ้นดีดกลับจากสัญญาณ Golden cross เป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้ โดยมีเป้าหมายที่การปิด GAP ที่ระดับ 1,694 จุดก่อนผ่านขึ้นยืนเหนือระดับ 1,700 จุดต่อไป

สำหรับหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น TSE โดยมีแนวรับ 2.58-2.56 บาทมีแนวต้าน 2.64 , 2.70 บาท ซึ่งมีระดับราคามีความพยายามดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน โดยเป็นการขยับขึ้นทำ New high ต่อเนื่องหลังจากไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 200 วันเมื่อกลางสัปดาห์

อีกทั้งยังมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นมาก อาจทำให้ MACD ดีดกลับขึ้นยืนเหนือศูนย์ได้ใน 1-2 วันนี้ หากวันนี้(9) ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 2.58-2.56 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 2.64 บาท ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมแถวๆ 2.70 บาทต่อไป

หุ้น CKP มีแนวรับ 6.25 บาท และมีแนวต้าน 6.40 , 6.55-6.65 บาท ซึ่งระดับราคามีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากในช่วงต้นสัปดาห์ที่ระดับราคามีการปรับตัวขึ้นแรงพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่พุ่งขึ้นสูงมาก โดยระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วัน ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่ลดลงต่อเนื่อง และ MACD ที่กำลังจะผ่านขึ้นยืนเหนือศูนย์ด้วย

หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.25 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นรอบใหม่ได้ โดยมีแนวต้านแถวๆ 6.40 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.55-6.65 บาทต่อไป

หุ้น DOHOME มีแนวรับ 9.90 , 9.70 บาท มีแนวต้าน 10.70 , 11.10 บาท มีระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 8 วันที่ระดับ 10.10 บาทแต่ยังประคองตัวปิดเหนือไม่ได้ ยังดีที่ยังปิดได้ในระดับสูงของวันพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย

ดังนั้นหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 9.90 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุด 9.70 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 10.70 บาทและ 11.10 บาทต่อไป

ส่วนบรรยากาศตลาดทองคำสัปดาห์ที่ผ่านเมื่อถึงเมื่อเวลา 11.00 น วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำล่าสุดอยู่ที่ 1,514.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่บริเวณ 1,520.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เท่ากับเปลี่ยนแปลงลดลง 6.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างสัปดาห์ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 75 เดือน ไปแตะระดับ 1,557 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ระหว่าง 1,506.59-1,557.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งทองคำในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้นจากความกังวลว่าเศรษฐกิจยุโรปจะชะลอตัว จนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีลดลง

ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งต่อไปอีก 0.25% ส่งผลบวกต่อทองคำ

อย่างไรก็ตามราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ปรับลดลงแรง หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP ประจำเดือนสิงหาคมของสหรัฐ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้และมีข่าวว่าสหรัฐและจีนตกลงที่จะเจรจาประเด็นสงครามการค้ารอบใหม่ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลดลงจนราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าลง โดยเปลี่ยนแปลงลดลงราว 0.05 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 30.655 บาทต่อดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 30.605 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างสัปดาห์อยู่ที่ 30.525-30.685 บาทต่อดอลลาร์

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นรอบล่าสุดได้ซื้อทองคำคืนมาบริเวณต่ำกว่า 1,505 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเป้าหมายอยู่ที่ 1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นเป้าแรกซึ่งถึงแล้ว ส่วนเป้าหมายที่สองอยู่ที่ 1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แต่ราคาขึ้นมาสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนเพียง 1,557 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะไหลร่วงลงมาหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับคนที่ขายทำกำไรออกไปแล้วรอซื้อคืนบริเวณ 1,492-1,507 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเป้าหมายรอบใหม่จะอยู่ 1,526 ดอลลาร์ต่อออนซ์และ1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ

ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังแนะนำถือทองคำต่อไป โดยหากราคายืนเหนือ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เป้าหมายระยะยาวถัดไปจะเป็น 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันที

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ก.ย. 2562 เวลา : 07:25:35
13-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (12 ธ.ค.68) บวก 0.56 จุด ดัชนี 1,254.10 จุด

2. MTS Gold คาดราคาทองคำเข้าสู่รูปแบบ "Sideway Up" ขณะที่วันนี้ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,250-4,230 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,300-4,320 เหรียญ

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 ธ.ค.68) บวก 0.29 จุด ดัชนี 1,253.83 จุด

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (11 ธ.ค.68) พุ่ง 88.30 ดอลลาร์ ขานรับเฟดลดดอกเบี้ย

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (11 ธ.ค.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 646.26 จุด รับเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (12 ธ.ค.68) ภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น 70% กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้าและมีฝน 10-20% บางพื้นที่

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-31.80 บาท/ดอลลาร์

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (12 ธ.ค.68) บวก 1.32 จุด ดัชนี 1,254.86 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (12 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 500 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,750 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (12 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 31.63 บาทต่อดอลลาร์

11. ประกาศ กปน.: 16 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลาดกระบัง

12. ประกาศ กปน.: 16 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสิรินธร

13. ตลาดหุ้นปิด (11 ธ.ค.68) ลบ 16.33 จุด ดัชนี 1,253.54 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (11 ธ.ค.68) ลบ 14.54 จุด ดัชนี 1,255.33 จุด

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 ธ.ค.68) ร่วง 11.50 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 13, 2025, 7:19 pm