กองทุนรวม
ทิสโก้เวลธ์แนะลงทุนหุ้นกลุ่ม"เฮลธ์แคร์"ชี้กำไรโตดี ไม่ผันผวน-รอดทุกวิกฤตเศรษฐกิจ


ทิสโก้เวลธ์แนะลงทุนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์หนึ่งในเมกะเทรนด์ที่โตเด่นไม่หวั่นแม้วิกฤตเศรษฐกิจ เปิดสถิติกำไรโตดี - ไม่ผันผวน ขณะที่ราคาหุ้นก็ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด S&P500 ชี้อุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวรับพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน ทำให้มีโอกาสโตอีกมาก

 


 
 
 
 
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า สำหรับการลงทุนในหุ้น ทิสโก้เวลธ์ยังคงแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้องไปกับกระแสหลักของโลก หรือ หุ้นกลุ่ม Megatrend เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้มักจะไม่ผันผวนไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ ยิ่งไปกว่านั้นในบรรดาหุ้นกลุ่ม Megatrend พบว่ามีหุ้นอยู่ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมที่สามารถรอดพ้นจากการปรับตัวลดลงอย่างหนักของตลาดหุ้นได้ในทุกช่วงวิกฤต ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนก้าวผ่านความเสี่ยงและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพอร์ตการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว(Recession)ได้เป็นอย่างดี นั่นคือหุ้น Megatrend ในกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ (Healthcare)

“ในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2533 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุนทั่วโลกต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือ Recession 3 ครั้งด้วยกัน ได้แก่ ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในปี 2533, ช่วงวิกฤตฟองสบู่ดอตคอมของสหรัฐฯ (Dot Com Crisis) ในปีช่วง 2543 และช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis)ที่สหรัฐฯในปี 2551 โดยในช่วงปี 2543 และปี 2551 นั้น หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ในตลาดS&P500 ปรับตัวลดลงเพียง 2% และ 17% ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าถึง 31% และ 23% เลยทีเดียว” นายณัฐกฤติกล่าว

ทิสโก้เวลธ์ยังพบว่าในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา (2533, 2544 และ 2551) กำไรต่อหุ้น (Earning Per Share) ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 9%, 9% และ 4% ตามลำดับ ในขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนของบริษัทในดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลงถึง 28%, 22% และ 36% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่ากำไรของกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ไม่ผันผวนไปตามสภาวะเศรษฐกิจ

นายณัฐกฤติกล่าวอีกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรม Healthcare ก็เริ่มปรับตัวทางธุรกิจรับกับการเพิ่มขึ้นของอัตราประชากรที่เข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยอ้างอิงจาก World Bank ตัวเลขจำนวนผู้เข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตพุ่งตัวสูงขึ้นจาก 2,485 ล้านคนในปี 2557 เป็น 4,388 ล้านคน ในปี 2562 ส่งผลให้บริษัท Healthcare เริ่มปรับตัวจากเดิมที่โรงพยาบาลเป็นศูนย์กลางของการรักษาพยาบาลมาเป็น “ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” (Customer Centric) โดยเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์และนำมาผสมผสานกับ Life-style การใช้ชีวิตของคนมากขึ้น เช่น การให้บริการ Telemedicine โดยจะเชื่อมต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับผู้ป่วยโดยตรงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งแพร่หลายในต่างประเทศเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ประเทศไทยก็เริ่มมีการให้บริการดังกล่าวแล้วเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารที่สามารถเห็นหน้าขณะคุยกัน หรือเป็นการใช้บริการผ่าน Application โดยผู้ป่วยจะ Live Video Call กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งส่งผลดีต่อคุณภาพการรักษาพยาบาล และเป็นการขยายตลาดให้กับผู้ประกอบการในกลุ่ม Healthcare เนื่องจากผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาจากที่ไหนก็ได้ในโลกแบบ Real-time ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการเดินทางให้กับผู้ป่วย อีกทั้งช่วยให้แพทย์สามารถติดตามผล และดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในอนาคต

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ก.ย. 2562 เวลา : 14:08:50
24-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 30 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลาดกระบัง

2. ตลาดหุ้นปิด (24 พ.ย.68) ลบ 1.67 จุด ดัชนี 1,252.73 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 พ.ย.68) บวก 3.54 จุด ดัชนี 1,257.94 จุด

4. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 ตลาดไม่แน่ใจแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด

5. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงขาลง (Sideway down) ในระยะสั้น แนวรับที่ 4,020-4,000 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,090-4,120 เหรียญ

6. ทีทีบี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.80 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ตลาดจับตาเฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ยเดือนหน้า

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60บาท/ดอลลาร์

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (24 พ.ย.68) ทั่วไทยอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา "ยอดดอย" หนาวจัด 6 องศา, ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 70% เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (24 พ.ย. 68) ลดลง 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 63,100 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (24 พ.ย.68) บวก 6.02 จุด ดัชนี 1,260.42 จุด

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (24 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 24 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 1

13. ประกาศ กปน.: 24 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 1

14. ตลาดหุ้นปิด (21 พ.ย.68) ลบ 27.41 จุด ดัชนี 1,254.40 จุด

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 พ.ย.68) ลบ 18.57 จุด ดัชนี 1,263.24 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2025, 8:08 pm