เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
สคร.จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจ 11 เดือนปี 62สูงกว่าเป้าหมาย 10%


นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)เปิดเผยว่าในเดือนสิงหาคม2562รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50(กิจการฯ) นำส่งรายได้แผ่นดินจำนวน5,486ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณ 2562(ตุลาคม 2561 – สิงหาคม 2562) สคร.นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจากรัฐวิสาหกิจและกิจการฯจำนวน 167,163 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจำนวน14,656ล้านบาทหรือสูงกว่าร้อยละ 10 


นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร.ในฐานะโฆษก สคร.กล่าวเพิ่มเติมว่าสาเหตุหลักที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้แผ่นดินสูงกว่าเป้าหมายนั้นเนื่องมาจากประสิทธิภาพการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่เพิ่มขึ้นโดยรัฐวิสาหกิจมีการปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในด้านต่างๆมากขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจดีขึ้น

ทั้งนี้รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรกในช่วง 11เดือนของปีงบประมาณ 2562 มีการนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมรวมจำนวน 147,829ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 88
ของรายได้แผ่นดินสะสมทั้งหมดที่จัดเก็บได้ซึ่งได้แก่
ลำดับที่        รัฐวิสาหกิจ     รายได้นำส่ง (ล้านบาท)
1       สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล       40,278
2       บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)       29,198
3       การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย   18,924
4       ธนาคารออมสิน    16,538
5       การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค     10,903
6       บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)     10,500
7       ธนาคารอาคารสงเคราะห์    5,646
8       ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร    5,582
9       การไฟฟ้านครหลวง 5,500
10      การท่าเรือแห่งประเทศไทย 4,760
        รวม     147,829

ผู้อำนวยการสคร.กล่าวสรุปว่าสำหรับในอีก 1 เดือนข้างหน้าของปีงบประมาณ2562สคร.มั่นใจว่าปีนี้จะจัดเก็บรายได้แผ่นดินเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จำนวน168,000 ล้านบาท ซึ่งการจัดเก็บรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจยังคงมีส่วนสำคัญในการช่วยรักษาเสถียรภาพการคลังให้แก่ประเทศรวมทั้งลดความไม่แน่นอน จากการจัดเก็บภาษีของกรมจัดเก็บภาษีต่างๆ ซึ่งสคร.จะดำเนินการติดตามการนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ก.ย. 2562 เวลา : 18:27:19
03-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. MTS Gold คาดราคาทองคำได้กลับเข้าสู่สภาวะทรงตัว ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,190-4,170 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,270 เหรียญ

2. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ธ.ค.68) ร่วง 54 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนแห่ขายทำกำไรหลังราคาพุ่งติดต่อกัน 6 วัน

3. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (3 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.85 - 32.10 บาท/ดอลลาร์

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.85 - 32.10 บาท/ดอลลาร์

6. ตลาดหุ้นไทยเปิด (3 ธ.ค.68) ลบ 2.53 จุด ดัชนี 1,275.05 จุด

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (3 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,550 บาท

8. พยากรณ์อากาศวันนี้ (3 ธ.ค.68) ประเทศไทย อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา, อุตุเตือน 4-6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองจากมวลอากาศเย็นประเทศจีนแผ่ปกคลุม

9. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (2 ธ.ค.68) บวก 185.13 จุด ตลาดมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

10. ตลาดหุ้นปิด (2 ธ.ค.68) บวก 1.01 จุด ดัชนี 1,277.58 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (2 ธ.ค.68) ลบ 4.77 จุด ดัชนี 1,271.80 จุด

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 2 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 3 ตัดถนนรัชดาภิเษก

13. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้นแนวรับที่ 4,200-4,180 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,280 เหรียญ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ธ.ค.68) บวก 19.90 ดอลลาร์ รับความหวังเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (1 ธ.ค.68) ร่วง 427.09 จุด เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง-ภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 9

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 3, 2025, 1:13 pm