แบงก์-นอนแบงก์
กสิกรไทยยึดหัวหาดโมบายแอปเพื่อเอสเอ็มอี ตัวจริงที่เข้าใจคนทำธุรกิจ


ธนาคารกสิกรไทยตอกย้ำความเป็นที่ 1 ในใจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยแอปพลิเคชัน K PLUS SME ธนาคารบนมือถือสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีที่มียอดดาวน์โหลดอันดับ 1 หนุนจัดการธุรกิจให้คล่องตัวแบบมืออาชีพ ตอบโจทย์ครบเพื่อชีวิตคนทำธุรกิจ ยอดธุรกรรม8เดือนแรกในปีนี้เกือบ 3 แสนล้านบาท






นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยว่าประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือหรือMobile Bankingมากที่สุดในโลก ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการใช้ชีวิตประจำวันและจากการที่ภาครัฐสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสด ด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินบนโทรศัพท์มือถือทุกธนาคาร ทำให้คนไทยหันมาทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์และบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ปัจจุบันแอปพลิเคชัน K PLUS SME มียอดจำนวนผู้ใช้งาน 561,000 ราย ซึ่งเป็น Mobile Banking สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในประเทศไทย โดย 8 เดือนแรกปีนี้ มีจำนวนธุรกรรมรวม 138 ล้านรายการ มูลค่าธุรกรรม 293,128 ล้านบาท โดยฟีเจอร์ที่ครองใจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 3 อันดับแรก คือ การเรียกดูรายการเคลื่อนไหวทางการเงินแบบเรียลไทม์ทั้งบัญชีเงินฝากและสินเชื่อ การโอนเงินและการติดตามสถานะของเช็ค นอกจากนั้น K PLUS SME จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจัดการทางด้านการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการแจ้งเตือนกำหนดวันชำระสินเชื่อ ทำให้ไม่พลาดเมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ รวมถึงการแจ้งเตือนกรณีเช็คมีปัญหาหรือมีเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เสียประวัติทางการเงิน

นายวีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่ใช้ดิจิทัลแบงกิ้งมารองรับการทำธุรกิจจะช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำธุรกิจคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเข้าใจความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นอย่างดี และเป็นธนาคารแรกที่ทำแอปพลิเคชัน K PLUS SME ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นแอปฯ เพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ เพราะชีวิตทางการเงินของธุรกิจก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกับการเงินส่วนบุคคล โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่บริหารธุรกิจคนเดียว เนื่องจากสามารถบริหารจัดการเรื่องการเงินจบในแอปพลิเคชันเดียวได้ด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยให้การจัดการธุรกิจเป็นไปอย่างคล่องตัว สามารถแยกบัญชีธุรกิจกับบัญชีส่วนตัวได้ ทำให้การทำบัญชีเดียวง่ายขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อง่ายและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งธนาคาร เตรียมเซอร์ไพร์สตอบโจทย์คนที่ทำธุรกิจในเร็วๆนี้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ก.ย. 2562 เวลา : 15:04:55
18-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.60 บาท/ดอลลาร์

2. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,350 บาท

3. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์

4. ประกาศ กปน.: 20 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนลาดหวาย

5. ตลาดหุ้นปิด (17 ธ.ค.68) ลบ 3.83 จุด ดัชนี 1,256.85 จุด

6. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ธ.ค.68) ลบ 0.74 จุด ดัชนี 1,259.94 จุด

7. MTS Gold คาดราคาทองคำคาดยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น (Sideway Up) ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,290-4,270 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,380 เหรียญ

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.65 บาท/ดอลลาร์

9. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (16 ธ.ค.68) ลบ 302.30 จุด หุ้นพลังงาน-เฮลธ์แคร์ร่วงฉุดตลาด

10. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (16 ธ.ค.68) ลบ 2.90 ดอลลาร์ หลังพุ่งรับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.47 บาทต่อดอลลาร์

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (17 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 6 องศา,ภาคใต้ ฝน 30%

13. ทองเปิดตลาดวันนี้ (17 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,050 บาท

14. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 ธ.ค.68) บวก 1.04 จุด ดัชนี 1,261.72 จุด

15. ตลาดหุ้นปิด (16 ธ.ค.2568) ลบ 12.72 จุด ดัชนี 1,260.68 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 18, 2025, 11:07 am