เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
กสิกรไทยมองเงินบาทมีแนวโน้มมีเสถียรภาพมากขึ้น


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ประกาศ "ปรับปรุงเกณฑ์เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออกและลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท" เมื่อวันที่ 6 พ.ย.62 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปที่ 1.25% นั้น การดำเนินการทั้ง 2 ส่วนพร้อมกันดังกล่าวมีผลต่อจังหวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่เริ่มขยับอ่อนค่าเล็กน้อย

          
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าอาจต้องใช้เวลาอีกระยะในการติดตามผลของเกณฑ์ด้านเงินทุนไหลออกที่เปิดมากขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ในระยะข้างหน้ายังขึ้นอยู่กับการปรับตัวของค่าเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งผูกโยงกับบทสรุปของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และปัจจัยเชิงโครงสร้างจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย         
         
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าการผ่อนเกณฑ์เงินทุนขาออกให้มีความเสรีมากขึ้นในครั้งนี้ อาจช่วยสร้างสมดุลให้กับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายได้ในบางส่วน ผ่านการชะลอแรงซื้อเงินบาท (ชะลอแรงขายเงินดอลลาร์ฯ) ซึ่งเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนรายได้ในรูปเงินตราต่างประเทศกลับมาเป็นเงินบาทของผู้ส่งออกและผู้ค้าทองคำ และการกระตุ้นแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ (ขายเงินบาท) ตามธุรกรรมการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนไทย หรือการโอนเงินออกนอกประเทศของคนไทย
          
"ทำให้ประเมินว่า ธปท.น่าจะยังติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย การปรับตัวของผู้ส่งออกในเรื่องวิธีการบริหารจัดการสภาพคล่องในรูปเงินตราต่างประเทศ การเลือกเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตลอดจนพฤติกรรมและจังหวะการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป" 
          
สำหรับผลต่อทิศทางเงินบาทนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ที่เอื้อต่อเงินทุนขาออกในครั้งนี้ เป็นไปตามที่ธปท.ได้เคยส่งสัญญาณไว้ในก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงอาจเห็นเงินบาทอ่อนค่าลงเพียงในระดับหนึ่งในจังหวะที่ตอบรับต่อการปรับเกณฑ์ดังกล่าว ขณะที่ผลต่อการลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทในระยะข้างหน้านั้น มองว่าน่าจะยังขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย โดยเฉพาะทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งผูกโยงกับพัฒนาการในเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่จะมีผลต่อเนื่องต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯและการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า หากสหรัฐฯและจีน สามารถหาข้อสรุปที่เป็นที่ยอมรับระหว่างกันได้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ การลดดอกเบี้ยของเฟดและสถานการณ์เงินดอลลาร์ฯ ก็น่าจะคลี่คลายลง และช่วยชะลอแรงกดดันต่อทิศทางค่าเงินบาท
          
ส่วนทิศทางของเงินบาทในระยะข้างหน้า ยังขึ้นอยู่กับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐานของเงินบาท โดยเฉพาะการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน ซึ่งแนวทางหนึ่งที่ ธปท.และทางการกำลังเร่งเดินหน้าก็คือ การกระตุ้นการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยเพื่อให้มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น ลดการเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด และท้ายที่สุดก็จะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน
          
อย่างไรก็ดีศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าธปท.น่าจะยังคงมีเครื่องมือและมาตรการที่จะเข้าไปดูแลเสถียรภาพของเงินบาทได้เพิ่มเติมหากมีความจำเป็น ซึ่งเมื่อประกอบกับมุมมองในเชิงบวกที่เพิ่มมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้เชื่อว่าเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงข้างหน้า 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 พ.ย. 2562 เวลา : 10:44:08
12-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิด (11 ก.ค.68) บวก 10.73 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,121.13 จุด

2. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (10 ก.ค.68) บวก 192.34 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 ก.ค.68) บวก 4.70 เหรียญ กังวลภาษีทรัมป์แห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (11 ก.ค.68) บวก 17.31 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,127.71 จุด

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (11 ก.ค.68) ภาคเหนือ ฝนตกหนัก 80% ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40%

6. ทองเปิดตลาดวันนี้ (11 ก.ค. 68) ปรับขึ้น 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,150 บาท

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (11 ก.ค. 68) บวก 8.98 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,119.38 จุด

8. MTS Gold คาดราคาทองคำทางเทคนิคยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway โดยมีแนวรับอยู่ที่ 3,300 เหรียญและแนวต้านที่ 3,350 เหรียญ

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.80บาท/ดอลลาร์

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (11 ก.ค.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 32.59 บาทต่อดอลลาร์

11. ประกาศ กปน.: 17 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนศรีนครินทร์ตัดถนนหนามแดง-บางพลี

12. ประกาศ กปน.: 19 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประเสริฐมนูกิจ

13. ตลาดหุ้นปิด (9 ก.ค.68) ลบ 5.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,110.40 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 ก.ค.68) ลบ 4.05 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,111.60 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,290 เหรียญ และ 3,340 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 12, 2025, 3:39 pm