เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
กรุงศรีเผยเงินบาทแข็งค่าหลังกนง.คงดอกเบี้ย มองมีโอกาสลดอีกเพื่อลดผลกระทบ COVID-19


กรุงศรีเผยเงินบาทแข็งค่าหลังกนง. คงดอกเบี้ย มองมีโอกาสลดอีกเพื่อบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19    


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในที่ประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา มติของกนง. สวนทางกับคาดการณ์ของเราที่ว่าจะมีการปรับลดอีกครั้งในวันนี้ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมาที่ระดับ 32.82 ต่อดอลลาร์ภายหลังการลงมติ นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่า 9% กลับทิศจากที่แข็งค่าในปี 2562 โดยคณะกรรมการกนง. ระบุว่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงสวนทางกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้าและสกุลหลักๆ และคาดว่าจะยังผันผวนต่อไป  แม้ว่าเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากเงินสำรองระหว่างประเทศที่ยังสูง

คณะกรรมการ กนง.แสดงความกังวลว่าการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย แต่ยอมรับว่า ระบบการเงินโดยรวมยังมีเสถียรภาพหลังจากที่มีมาตรการเสริมสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะหดตัวอย่างรุนแรง เนื่องจากการท่องเที่ยวและการส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อรายได้ของภาคธุรกิจและอุปสงค์ในประเทศ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีใน 2563 ลงมาเป็นหดตัวถึง 5.3% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ก่อนที่การเติบโตจะพลิกกลับมาเป็นบวกในปี 2564 ขณะที่ ธปท.คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะปรับลดลง 60% ในปีนี้ 

คณะกรรมการกนง.มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ความเห็นของ กนง. ในวันนี้แสดงถึงมุมมองที่สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนอย่างชัดเจน รวมทั้งความเห็นเชิงลบต่อคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจ คณะกรรมการย้ำถึงความจำเป็นสำหรับนโยบายการคลังที่จะมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัส  อย่างไรก็ตาม กลุ่มงานโกลบอล มาร์เก็ตส์คาดว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0.50% รวมทั้งการใช้นโยบายแบบเจาะจงเป้าหมาย เนื่องจากผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้กระจายไปในทุกภาคส่วน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 มี.ค. 2563 เวลา : 17:28:42
19-07-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (18 ก.ค.68) บวก 8.47 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,206.58 จุด

2. ประกาศ กปน.: 24 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราชพฤกษ์ และถนนบรมราชชนนี

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ก.ค. 68) บวก 7.06 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,205.17 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,350 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 ก.ค.68) ร่วง 13.80 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่า-ข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 ก.ค.68) บวก 229.71 จุด นักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจ-ผลประกอบการแกร่ง

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (18 ก.ค.68) กรุงเทพปริมณฑล ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคอีสาน 40% ภาคใต้ 30-40%

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 ก.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (18 ก.ค.68) บวก 0.77 จุดทดัชนีอยู่ที่ 1,198.88 จุด

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.55บาท/ดอลลาร์

11. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 ก.ค. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 52,050 บาท

12. ประกาศ กปน.: 23 ก.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านตะวันตก)

13. ตลาดหุ้นปิด (17 ก.ค.68) บวก 40.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,198.11 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ก.ค.68) บวก 33.38 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,191.01 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ Sideways มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,355 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 19, 2025, 5:58 am