หุ้นทอง
ไม่ว่าคุณหรือใคร...ไม่สามารถเดาตลาดหุ้นได้..แม้แต่คนเดียว


ถ้ามีใครมาพูดกับคุณว่า ผมเป็นนักลงทุนที่คาดเดาตลาดหุ้นได้แม่นยำ เชื่อเถิด ไม่น่าจะมีจริงหรือถ้าคาดเดาตลาดถูกเป็นครั้งคราว ถือว่าเป็นเรื่องของดวง ยิ่งถ้าคาดเดา 100 ครั้ง แล้วถูก 50-60 ครั้ง ก็ไม่ต่างไปจากการทอยเหรียญหรือการปาเป้านั่นเอง

 

 
 
 
โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับลดลงมากๆๆ เพราะคิดว่าดัชนีหุ้นในวันถัดไปจะปรับลดลงต่อหรือว่าจะรีบาวน์ หรือสัปดาห์ถัดไปดัชนีหุ้นจะกลับไปอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด คำตอบคือ มีความเป็นไปได้ทั้งหมด
 
ถ้าคุณยอมรับว่าตัวคุณเองไม่สามารถคาดเดาตลาดได้ เรื่องการลงทุนก็จะง่ายมากขึ้น เพราะเมื่อไม่คาดเดาตลาดก็ไม่ต้องซื้อขายบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวตกรถ ไม่ต้องกะจังหวะผิดพลาด ที่สำคัญถ้าคุณยอมรับว่า “ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นหรือจะลง ก็เป็นเรื่องของตลาด” เท่ากับว่า คุณจะเหลือวิธีการลงทุนที่ทำให้อยู่กับตลาดหุ้นได้ในระยะยาว คือ ลงทุนแบบสม่ำเสมอ (Dollar Cost Average : DCA)
 
เมื่อลงทุนแบบ DCA จะได้รับหุ้นจำนวนมากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา ที่ได้ลงทุนหรือพูดอีกนัยหนึ่ง ก็คือ “กระจายการซื้อหุ้นตลอดเวลา ทั้งในยามที่ภาวะการลงทุนดีและไม่ดี ด้วยเงินจำนวนเดียวกัน” 

มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์และคุณศรัณย์ พิมพ์งาม บอกว่า หากทำให้ได้ “ราคาต้นทุนแบบถัวเฉลี่ย” จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็ไม่มีทางขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ ที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนมากๆ อย่างหุ้นและกองทุนรวมหุ้นได้เป็นอย่างดี
 
ดังนั้นถ้าไม่ช้อนซื้อหุ้นเพิ่มจะเป็นอะไรหรือเปล่า สมมติว่า คุณลงทุนหุ้นหรือกองทุนรวมดัชนีหุ้นเดือนละ 5,000 บาท ช่วงนี้ตลาดอยู่ในช่วงขาลง แต่ไม่ได้ลงทุนเพิ่มเป็นพิเศษเลย ถ้ามีเป้าหมายลงทุนแบบ DCA เป็นเวลา 30 ปี แปลว่าจะลงทุนทั้งสิ้น 360 ครั้ง (30 ปี คูณ 12 เดือน) รวมเป็นเงินต้นทั้งสิ้น 1,800,000 บาท
 
ถ้าคุณตัดสินใจเติมเงินช้อนซื้อเพิ่มในช่วงตลาดหุ้นปรับลดลงจำนวน 20,000 บาท ก็จะเท่ากับ 1.11% ของ 1,800,000 บาท ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อยอดเงินต้นในการลงทุนแบบ DCA
 
ดังนั้นในช่วงตลาดหุ้นปรับลดลง คุณก็อย่าตกใจด้วยการ “ขาย” และอาจไม่จำเป็นต้อง “ช้อนซื้อ” และเลิกคาดเดาว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือจะลง แต่สิ่งสำคัญในการลงมือปฏิบัติ คือ ลงทุนแบบ DCA ต่อไป
 
ดังนั้นการคาดเดาตลาดหุ้นได้อย่างแม่นยำจึง “ไม่มีจริง” ถ้าคุณตั้งหน้าตั้งตาในการหาเงิน เก็บออมและมีวินัยในการลงทุนแบบ DCA เพราะถ้าตกใจและเต้นตามตลาดหุ้น ซื้อขายบ่อยๆ ลงทุนตามจังหวะ อาจทำให้แผนการลงทุนและเงินออมในระยะยาวของคุณอาจไม่ถึงเป้าหมาย
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 มี.ค. 2563 เวลา : 14:10:18
06-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (5 พ.ย.68) ลบ 3.31 จุด ดัชนี 1,295.29 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (5 พ.ย.68) ลบ 2.67 จุด ดัชนี 1,295.93 จุด

3. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (4 พ.ย.68) ร่วง 251.44 จุด หลังแบงก์ใหญ่เตือนตลาดหุ้นเสี่ยงเข้าสู่ภาวะปรับฐาน 10-20%

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (4 พ.ย.68) ร่วง 53.50 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่าทุบตลาด

6. MTS Gold ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 3,920-3,900 เหรียญ และแนวต้านที่ 3,980-4,000 เหรียญ

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (5 พ.ย.68) ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ตก 20% แต่ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนัก 60%

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (5 พ.ย. 68) ร่วงลง 650 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 61,600 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (5 พ.ย.68) ลบ 13.48 จุดดัชนี 1,285.12 จุด

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (5 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.57 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (4 พ.ย.68) ลบ 10.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,298.60 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 พ.ย.68) ลบ 8.54 จุดดัชนี 1,300.32 จุด

14. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 พ.ย.68) บวก 17.5 ดอลลาร์ ตลาดจับตาจ้างงานภาคเอกชนประเมินดอกเบี้ยเฟด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 6, 2025, 4:52 am