กองทุนรวม
บลจ.ทิสโก้รุกออกกองทุน ''ไชน่า คอนซูเมอร์'' เดินหน้าเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน เกาะกระแสแรงซื้อมหาศาลจากจีน


บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด “ทิสโก้ ไชน่า คอนซูเมอร์” ลงทุนในหุ้นสินค้าอุปโภคบริโภค ประเภทสินค้าฟุ่มเฟือยในแดนมังกร รับแรงซื้อมหาศาลจากคนจีนที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก เปิด IPO 1-9 ก.พ. 64   


 
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศจีนถือเป็นหนึ่งประเทศที่มีกำลังซื้อมหาศาล เพราะมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ประมาณ 1,400 ล้านคน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจก็ยังเติบโตอย่างโดดเด่น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าในปี 2564 เศรษฐกิจจีนจะเติบโตถึง 8.1% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผลักดันและยกระดับการบริโภคภายในประเทศของรัฐบาลจีน การควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ได้อย่างดี ประกอบกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของจีนรวมถึง Internet ที่มีประสิทธิภาพได้สนับสนุนการบริโภค และการท่องเที่ยวในประเทศให้เติบโตอย่างมาก 

“จากปัจจัยบวกทั้งภาวะเศรษฐกิจ จำนวนประชากร และนโยบายของรัฐบาลจีนได้หนุนให้รายได้และกำไรของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคในประเทศจีนเติบโตอย่างมาก ซึ่งไม่จำกัดเพียงแค่สินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าและบริการอื่นๆ ที่เป็นส่วนเสริมคุณภาพชีวิต (สินค้าฟุ่มเฟือย) อีกด้วย เช่น รถยนต์ กระเป๋า การท่องเที่ยว ภัตตาคาร เป็นต้น โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ของสินค้าฟุ่มเฟือยในจีนที่อยู่ในดัชนี MSCI China Consumer Discretionary 10/50 ในปี 2564 จะอยู่ที่ 77.86 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2562 ที่อยู่ในระดับ 40.29 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น และจะเติบโตเฉลี่ย 29% ต่อปี ไปจนถึงปี 2566” นายสาห์รัชกล่าว 

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า คอนซูเมอร์ (TCHCON) ความเสี่ยงระดับ 7 (ความเสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในหมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน  Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF (กองทุนหลัก) ที่จดทะเบียน ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE Arca, Inc.) ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เสนอขายครั้งแรก (IPO) 1 - 9 กุมภาพันธ์ 2564 

สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน เช่น บริษัท NIO ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน และเป็นหนึ่งใน TOP 5 ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในโลก ผลิตรถยนต์พรีเมียมที่มาพร้อมกับนวัตกรรมแบตเตอรี่และระบบไร้คนขับ และยังเตรียมเปิดตัวแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรในปีนี้ และยังมีกลยุทธ์ซื้อรถเปล่าเช่าแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้ราคารถยนต์ถูกลงไปกว่า 20% โดยข้อมูลจากบริษัท  NIO ระบุว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในไตรมาส 2 ส่งมอบรถไปได้ 10,331 คัน และในไตรมาส 3 ส่งมอบได้ 12,206 คัน 

อีกตัวอย่างคือ บริษัท ANTA แบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของจีนมีมูลค่าตลาดสูงถึง 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 3 รองจาก Nike และ Adidas มีร้านค้ากว่า 12,000 ทั่วประเทศจีน ในปี 2562 มีรายได้ 33,928 ล้านหยวน เติบโต 32% (5 ปีย้อนหลัง) มีรายได้หลักจากแบรนด์ FILA ที่เน้นจับตลาดลูกค้ากลุ่มที่มีฐานะดีในจีน ฮ่องกง มาเก๊า และสิงคโปร์

พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน TCHCON ระหว่างวันที่ 1 - 9 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่ 20-29.99 ล้านบาท รับทองคำหนัก 2 สลึง และยอดเงินลงทุนตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป รับทองคำหนัก 1 บาท (1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์) 

กองทุนเปิด TCHCON ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้เปิดเผยไว้ที่ www.tiscoasset.com และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds  

LastUpdate 30/01/2564 17:14:54 โดย : Admin
16-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (16 ธ.ค.2568) ลบ 12.37 จุด ดัชนี 1,261.03 จุด

2. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,290-4,270 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

3. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (16 ธ.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.48 บาทต่อดอลลาร์

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.65 บาท/ดอลลาร์

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (16 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา,ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 30-40%

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (15 ธ.ค.68) ลบ 41.49 จุด นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจประเมินดอกเบี้ยเฟด

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (15 ธ.ค.68) บวก 6.90 ดอลลาร์ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (16 ธ.ค. 68) ร่วงลง 300 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,050 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (16 ธ.ค.68) ลบ 6.96 จุด ดัชนี 1,266.44 จุด

10. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 15 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระสุเมรุ

11. ตลาดหุ้นปิด(15 ธ.ค.2568) บวก 19.30 จุด ดัชนี 1,273.40 จุด

12. การประปานครหลวง เรื่อง กปน. แจ้งปิดช่องทางการจราจรชั่วคราว บริเวณถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4

13. ทีทีบี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ แข็งค่าต่อเนื่องหลังเฟดลดดอกเบี้ยต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากกว่าคาด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (15 ธ.ค.68) บวก 3.45 จุด ดัชนี 1,257.55 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำได้แสดงสัญญาณ Breakout ที่ชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,300-4,280 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 16, 2025, 4:18 pm