เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
การขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการเราชนะ


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้รับเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตของผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) รวมถึงประชาชนที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เช่น การแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด การขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการคลังได้เร่งรัดดำเนินการติดตามและตรวจสอบการกระทำทุจริตในกรณีต่าง ๆ รวมถึงประสานขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการดังกล่าว โดยหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้า และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนั้น กระทรวงการคลังขอความร่วมมือประชาชนในการรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ  ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการฯ สามารถแจ้งเบาะแส รวมถึงส่งหลักฐานการกระทำผิดเงื่อนไข ทางไปรษณีย์มาที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail) ของโครงการเราชนะที่ wewin@fpo.go.th


โฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ดังนี้ 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 70,010 ล้านบาท 2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการเราชนะแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 102,915 ล้านบาท และ 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0  ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 10,800 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะแล้ว รวมทั้งสิ้น จำนวน 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 183,725 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 มี.ค. 2564 เวลา : 16:40:22
02-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (31 ต.ค.68) ลบ 5.15 จุด ดัชนี 1,309.50 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (31 ต.ค.68) บวก 0.17 จุด ดัชนี 1,314.82 จุด

3. MTS Gold คาดว่าตลาดจะ หยุดการปรับตัวลง และจะเข้าสู่ช่วง Sideway สร้างฐานราคา กรอบแนวรับ 3,980 เหรียญ แนวต้านที่ 4,080 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นไทยเปิด (31 ต.ค.68) ลบ 8.51 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.14 จุด

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (31 ต.ค. 68) ปรับขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,200 บาท

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) ร่วง 109.88 จุด หุ้น Meta-Microsoft ฉุดตลาด-กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (31 ต.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.34 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) บวก 15.20 ดอลลาร์ รับเฟดลดดอกเบี้ย-ความไม่แน่นอนข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐ

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (31 ต.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต." ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60%

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (30 ต.ค.68) ลบ 0.99 จุด ดัชนี 1,314.65 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 ต.ค.68) ลบ 5.87 จุด ดัชนี 1,309.77 จุด

13. MTS Gold ราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 59,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 61,000 บาท/บาททองคำ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 ต.ค.68) บวก 17.6 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย 0.25%

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 ต.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 2, 2025, 12:14 am