หุ้นทอง
มุมมองการลงทุน เมื่อ Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยและโอมิครอนระบาด


บรรยากาศการลงทุนในช่วงต้นปี 2565 จะยังคงผันผวนต่อเนื่องจากปลายปี 2564 ด้วยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ผ่านปัจจัยที่นักลงทุนจะยังคงกังวล ได้แก่ ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นแรงในสหรัฐฯ และปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยทั้งสองปัจจัยนี้ น่าจะมีผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยุโรป และประเทศสำคัญ ๆ รวมทั้งประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 
แม้ปัจจัยเสี่ยงจะรุมเร้าเช่นนี้ แต่ ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มองว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2565 จะไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เพียงแต่อาจเติบโตช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

และ ดร.อมรเทพ ยังมองว่า มาตรการทางการคลังในหลายประเทศจะสามารถนำมาใช้ เพื่อบรรเทาปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งหากมีความชัดเจนในการแก้ปัญหา ก็มีโอกาสที่นักลงทุนจะฟื้นความเชื่อมั่นและกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพื้นฐานดี ราคาไม่แพงจนเกินไป และมีโอกาสในการเติบโต เช่น ในสหรัฐฯ ยุโรป จีน และเวียดนาม

รวมทั้งกลุ่มดูแลสุขภาพ กลุ่มสินค้าแบรนด์เนม และกลุ่มพลังงานทดแทน ซึ่งนักลงทุนอาจหาจังหวะทยอยเข้าสะสมเมื่อราคาย่อลง เนื่องจากมองว่าในเดือนมกราคมนี้ แม้ยังต้องเผชิญความผันผวน แต่ก็จะผ่านไปได้เช่นในอดีต
 
โดยปัจจัยแรกที่จะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้ คือ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นเร็ว ให้นักลงทุนจับตาตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ ว่าจะเร่งขึ้นกว่า 6.8% จากเดือนก่อนหน้าหรือไม่ เพราะช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ได้เร่งถอนวงเงิน QE พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 3 ครั้งในปี 2565 แม้หลังประกาศมุมมองอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินที่จะตึงตัวมากขึ้นไปแล้ว

แต่นักลงทุนในตลาดทุนกลับไม่ตกใจ อาจเป็นเพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้ดี อัตราการว่างงานจะลดลงต่อเนื่อง และ Fed เองไม่น่าที่จะเร่งสกัดเงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่จะสิ้นสุดมาตรการ QE ซึ่งในมุมมองด้านการลงทุน นักลงทุนน่าจะรับรู้ข่าวสารเรื่องการเร่งถอนมาตรการ QE และการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ตลาดน่าจะคลายความกังวลว่า Fed เองน่าจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ และมองภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าที่ยังไม่สะดุด
 
ในขณะที่ตลาดแรงงานยังสามารถที่จะมีการเพิ่มการจ้างงานทำให้อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่องได้ แต่หากตัวเลขการว่างงานที่อาจไม่ได้ลดลงเร็ว ตลอดจนตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งต่อเนื่อง ก็อาจทำให้นักลงทุนกลับมาเพิ่มความกังวลอีกว่า Fed จะต้องใช้ยาแรง หรือต้องเร่งการขึ้นดอกเบี้ยในไป 2565 เพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่ และคงรอรายงานการประชุมนโยบายการเงินในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้
 
โดยในช่วงที่ผ่านมา เราน่าจะสังเกตได้ว่า ปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่มีมาก ประกอบกับสภาพคล่องในระบบการเงินยังมีสูง น่าจะทำให้นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีแทบไม่เปลี่ยนแปลง ต่างกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ช่วง 2 ปีที่พุ่งขึ้นเร็วรับการเร่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งภาพอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่ไม่ได้ปรับขึ้นเร็วจะช่วยให้นักลงทุนยังสามารถแสวงหาผลตอบแทนจากสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากต้นทุนการระดมทุนยังต่ำ

ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และอาจกดดัน Fed ให้เร่งมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมแทนที่จะเป็นเดือนมิถุนายนแล้ว ตลาดอาจผันผวนระยะสั้น ก่อนกลับไปดูว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังเป็นที่น่าพอใจ และ Fed น่าจะควบคุมปัญหาเงินเฟ้อได้ในที่สุด ซึ่งในระยะยาว ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจะชนะอัตราดอกเบี้ยจากเงินฝากได้ แม้จะมีความผันผวนระหว่างทางที่นักลงทุนต้องระวัง
 
ปัจจัยที่สองที่จะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้ คือ การระบาดของโอมิครอนที่มีผลให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง และมีการระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น โดยตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นเร็วในต่างประเทศอาจสร้างความกังวลว่ารัฐบาลในประเทศต่าง ๆ จะกลับมาใช้มาตรการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น ระงับการเดินทางระหว่างประเทศ การเพิ่มเงื่อนไขการกักตัว การเว้นระยะห่างที่เข้มงวดมากขึ้น

ตลอดจนมีการจำกัดการเปิดสถานประกอบการ ซึ่งโดยรวมอาจคล้าย ๆ กับการกลับมาล็อกดาวน์กันอีกรอบ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นในเดือนมกราคมแล้ว ก็มีผลต่อการบริโภคของคนในประเทศนั้น ๆ

รวมทั้งต้องติดตามว่าปัญหานี้จะกระทบต่อภาคการผลิตทำให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานชะงักงันด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนการขนส่งสินค้า ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้นอีก

ดร.อมรเทพ ยังเชื่อว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ด้วยการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และมาตรการเยียวยาจากภาครัฐในแต่ละประเทศ ผลกระทบทางเศรษฐกิจน่าจะไม่รุนแรง และน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว
 
โดยสรุป ดร.อมรเทพ ยังเห็นว่าการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศที่มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว แม้มีความผันผวนจากเรื่องเงินเฟ้อและการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นประเด็นเก่าที่ตลาดทุนเคยเผชิญมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งน่าจะปรับตัวได้เร็ว และเศรษฐกิจโลกเสี่ยงต่อการชะลอตัวในระยะสั้น ไม่ใช่การเกิดวิกฤติเศรษฐกิจรอบใหม่

ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนด้วยการทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาย่อลง ในกลุ่มที่แนะนำไปน่าจะให้ผลตอบแทนในระยะยาวได้ดีกว่าการถือเงินสด โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนกังวลมาก ๆ และสภาพคล่องในระบบยังมีสูง การปรับตัวของตลาดน่าจะเกิดขึ้นและสิ้นสุดได้เร็ว เพียงแต่นักลงทุนต้องหาทางกระจายความเสี่ยงเอาไว้ให้ดี

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ม.ค. 2565 เวลา : 09:56:17
26-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (26 เม.ย.67) ลบ 4.33 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,359.94 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนวิภาวดีรังสิต

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (26 เม.ย.67) ลบ 2.25 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.02 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,350 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

7. ทองปิดบวก $4.10 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อลดความเสี่ยง

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 เม.ย.67) บวก 0.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.95 จุด

9. ดาวโจนส์ปิดร่วง 375.12 จุดหลัง GDP สหรัฐชะลอตัว - เงินเฟ้อพุ่ง

10. ทองพุ่ง! ราคาทองวันนี้ 26/4/67 ครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,850 บาท

11. ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 43 องศาเซลเซียส ฟ้าหลัว ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง

12. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

13. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 8:57 pm