กองทุนรวม
บลจ.ไทยพาณิชย์ ส่งกองทุน ดัชนีหุ้นเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น (SCBAXJ) สร้างโอกาสลงทุนผ่านหุ้นชั้นนำในเอเชีย เตรียม IPO 5-17 พฤษภาคมนี้


 

คุณนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงภาวะที่ตลาดการลงทุนมีความเสี่ยงจากหลายด้าน ทั้งจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก ๆ เป็นเข้มงวดมากขี้น เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวมาอยู่ในระดับสูง ทำให้การจัดพอร์ตการลงทุนในหลากหลายตลาดเพื่อกระจายความเสี่ยง เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนสามารถครองสถานะการลงทุนในระยะยาวและเป็นจังหวะทยอยเข้าลงทุนในตลาดที่มีความน่าสนใจที่ดี


โดยภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียในระยะยาวมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าภูมิภาคอื่นของโลก คาดว่าในปี 2045 การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกว่า 50% จะมาจากภูมิภาคเอเชีย และยังมีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนประชากรเอเชียที่สูงถึง 4.5 พันล้านคนซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และเนื่องจากตลาดเอเชียไม่ได้เป็นเพียงแหล่งการผลิตสินค้าเพื่อส่งต่อไปยังประเทศพัฒนาแล้วอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเป็นตลาดบริโภคที่มีขนาดใหญ่และมีแนวโน้มที่จะบริโภคมากขึ้น จึงเป็นเป็นเหตุผลที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนมายังภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลเหล่านี้บริษัทฯ จึงส่งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนีหุ้น Asia ex Japan (SCBAXJ) เสนอขายครั้งแรก ระหว่างวันที่ 5 – 17 พฤษภาคม 2565 ใน 2 ประเภทกองทุน คือ SCBAXJ(A) - ชนิดสะสมมูลค่า และ SCBAXJ(SSF) - ชนิดเพื่อการออม มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท สามารถลงทุนเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป

สำหรับกองทุนเปิด SCBAXJ จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ iShares Core MSCI Asia ex Japan ETF สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ในทวีปเอเชีย จำนวน 10 ประเทศ ยกเว้น ประเทศญี่ปุ่น โดยหุ้นที่กองทุนหลักเลือกลงทุนจะพิจารณาจากหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ในหลากหลายอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับ เทรนด์และประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี อย่างธุรกิจทางการเงิน และ e-commerce โซเชียลมีเดียแพลทฟอร์มขนาดใหญ่ เช่น TSMC, SAMSUNG, TENCENT, ALIBABA เป็นต้น ซึ่งมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% เพื่อช่วยลดความผันผวนของผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยน และยังเป็นการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์ให้ผลตอบแทนเป้าหมายใกล้เคียงผลตอบแทนของดัชนีที่กองทุนอ้างอิง

“เรามองว่าเอเชียมีแนวโน้มเติบโตที่ดี มีศักยภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เอเชียจะไม่ได้เป็นเพียงแหล่งการผลิตสินค้าเพื่อส่งต่อไปยังประเทศพัฒนาแล้วอีกต่อไป แต่เอเชียกำลังเปลี่ยนแปลงไปเป็นตลาดบริโภคขนาดใหญ่ พร้อมกับการเดินหน้าปรับตัวเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของโลก สร้างการบริโภคผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น มุ่งผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงมีการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) ในระดับที่สูงมากติดอันดับต้น ๆ ของโลก และยังมีบริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีลูกค้า-ผู้ใช้บริการจำนวนมากในตลาดโลก ขณะเดียวกันค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อเอเชียก็ยังมีแนวโน้มต่ำกว่ากลุ่มประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนต่อเอเชียยังมีไม่มาก ทำให้กองทุน SCBAXJ เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่น่าสนใจ และสามารถสร้างโอกาสทำกำไรในระยะยาวได้” คุณนันท์มนัส กล่าว

ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจเอเชียในปี 2565-2566 น่าจะขยายตัวราว 5.4% และ 5.6% ตามลำดับ ขณะเดียวกันนโยบายการเงินโดยภาพรวมยังเป็นนโยบายเชิงผ่อนคลายมากกว่าประเทศพัฒนาแล้ว โดยมีปัจจัยสนับสนุนการลงทุนมาจากมูลค่าปัจจุบันของตลาดหุ้นเอเชียยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน เช่นเดียวกับมูลค่าของตลาด

หุ้นเอเชียในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลกเกือบ 30% สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจเอเชียยังมีสัญญาณที่เป็นบวกกับทิศทางการลงทุน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.info/3kAxPYe และลงทุนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy และ SCBAM Fund Click โดยกองทุน SSF ผู้ถือบัตรเครดิต SCB สามารถชำระมูลค่าลงทุนผ่านบัตรได้ที่แอปพลิเคชัน SCB Easy หรือ สามารถเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.link/scbam_fund_click

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 พ.ค. 2565 เวลา : 13:42:39
23-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (22 ต.ค.68) บวก 11.63 จุด ดัชนี 1,302.35 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 ต.ค.68) บวก 7.35 จุด ดัชนี 1,298.07 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ระดับ 4,060 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 4,150 เหรียญ

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (21 ต.ค.68) บวก 218.16 จุด รับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนแกร่ง-จับตาเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (21 ต.ค.68) ร่วง 250.30 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังราคาทองพุ่งแรง

6. ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย / ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 70%

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (22 ต.ค.68) บวก 1.29 จุด ดัชนี 1,292.01 จุด

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (22 ต.ค. 68) ร่วงลงหนัก 2,500 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,550 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 ต.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.89 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-32.95 บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (21 ต.ค.2568) บวก 6.25 จุด ดัชนี 1,290.72 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (21 ต.ค.68) บวก 4.12 จุด ดัชนี 1,288.59 จุด

13. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 4,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 4,380 เหรียญ

14. ทองเปิดตลาดวันนี้ (21 ต.ค. 68) พุ่งขึ้น 1,100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 67,900 บาท

15. ตลาดหุ้นไทยเปิด (21 ต.ค.68) บวก 5.24 จุด ดัชนี 1,289.71 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 23, 2025, 1:38 pm