คาด SET ยังมี upside จำกัด บริเวณแนวต้าน 1640-1650 จุด และมีแนวโน้มกลับมาอ่อนตัวลงได้จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยคืนนี้ติดตาม GDP สหรัฐ ใน 1Q22 (ประมาณการครั้งที่สอง) และการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง ด้านแนวรับอยู่ที่ 1622 และ 1610 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• รายงานการประชุม Fed ระบุ คกก. ส่วนใหญ่เห็นว่าการปรับขึ้น ด.บ. 0.5% ในเดือน มิ.ย. และ ก.ค.เหมาะสมที่จะสกัดเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้ ศก.ถดถอย
• อินเดียประกาศจำกัดส่งออกน้ำตาล ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-31 ต.ค. นี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาในประเทศส่งผลราคาน้ำตาลโลกพุ่ง เป็นปัจจัยหนุนหุ้นน้ำตาล
• สภาพัฒน์เตรียมหารือ ก.คลัง และ ธปท. สัปดาห์หน้าเพื่อออกมาตรการกระตุ้น ศก. ช่วงครึ่งปีหลังโดยเน้นไปที่ภาคการผลิต ภาคบริการ การบริโภค
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ช่วงสั้น SET ยังมีความผันผวนในทิศทางขาลง หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่และปัจจัยภายนอกยังมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ดี การปรับลงแรงของตลาด และราคาหุ้นมองเป็นโอกาสดีในการซื้อเพื่อหวังผลในช่วงปลายปี กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “หาจังหวะทยอยซื้อสะสม” ในหุ้นคุณภาพดี
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : เรายังมีมุมมองระมัดระวังต่อการลงทุนจึงเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีโมเมนตัมกำไรดีต่อเนื่องรวมทั้ง Valuation ไม่แพง (สะท้อนได้จาก PBV ยังต่ำกว่าหรือใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ใน 2 ธีมหลัก คือ
1) หุ้นที่กำไร 1Q65 ดีเกินคาด และ 2Q65 โมเมนตัมกำไรดีต่อเนื่อง เลือก IVL AMATA MTC CPALL และ
2) หุ้นที่กำไรผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว และจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2Q65 เลือก OSP
Daily Focus
BDMS กำไร 2Q65 คาดเติบโต YoY จากรายได้ไม่เกี่ยวกับ COVID19 และตลาดผู้ป่วยต่างชาติดีขึ้นหลังรัฐคลายล็อกดาวน์และข้อจำกัดเดินทางเข้าประเทศ ล่าสุดประกาศโครงการ BDMS Silver Wellness & Residence เพื่อสร้างศูนย์สุขภาพ คาดหนุนการเติบโตในระยะยาว
IVL โมเมนตัมกำไร 2Q65 ยังดีต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ จากอุปสงค์ PET ที่ยังแข็งแกร่ง และส่วนต่างราคา PET/PTA ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ทั้งปี 65 คาดกำไรเติบโตเด่น 49%YoY
ข่าวเด่น