กองทุนรวม
ธ.ฟันธง ! จังหวะนี้ต้องซื้อ "กองทุนตราสารหนี้โลก" เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนกว่า 10% แบบไม่ต้องเสี่ยงสูง


ธนาคารทิสโก้ฟันธง จังหวะนี้ต้องขายหุ้นสหรัฐฯ โยกเงินซื้อ “กองทุนตราสารหนี้โลก” เพราะหุ้นสหรัฐฯ ราคาแพงเศรษฐกิจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Bond Yield) ทั่วโลกอยู่ในระดับสูง ตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นมาสกัดเงินเฟ้อ และอนาคตราคาหน้าตั๋วอาจปรับขึ้นหากเศรษฐกิจฟุบ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนกว่า 10%

 
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารทิสโก้ยังคงย้ำให้ลูกค้าขายสินทรัพย์การลงทุนในสหรัฐฯ ทั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่มีนโยบายลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ และหุ้นสหรัฐฯ ที่อยู่ในดัชนี S&P500 พร้อมโยกเงินมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้โลก (Global Bond) ที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสามารถลงทุนได้หรือ Investment Grade (IG) ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสูง เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Bond Yield) ที่อยู่ในระดับสูงประมาณ 4 - 5% และอนาคตมีโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มจากราคาตราสารหนี้ที่จะปรับตัวสูงขึ้นหากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ซึ่งโดยรวมแล้วหากลงทุนในตราสารหนี้โลกคุณภาพสูงในช่วงนี้ ลูกค้ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมกว่า 10%

“การลงทุนในช่วงนี้ธนาคารทิสโก้ยังแนะนำขายหุ้นในดัชนี S&P500 เพราะปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับช่วงฟองสบู่ Dotcom ปี 2543 และช่วง Pre-COVID ปี 2562 ขณะที่เศรษฐกิจที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย พร้อมเน้นย้ำให้ลูกค้าเข้าซื้อกองทุนตราสารหนี้โลก เพราะขณะนี้เป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเข้าสู่จุดสูงสุดหลังจากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลง และ Bond Yield ก็อยู่ในระดับสูงถึง 4 – 5% นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา (Capital gains) หากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และอัตราดอกเบี้ยกลับมาเป็นขาลงในอนาคต ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยเร่งให้เม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในตราสารหนี้อย่างพันธบัตรรัฐบาลของประเทศพัฒนาแล้วที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง โดยไม่ว่าภาวะ Recession จะรุนแรง (Hard Landing) หรือ ไม่รุนแรง (Soft Landing) ก็ล้วนเป็นผลดีต่อการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลทั้งสิ้น” นายณัฐกฤติกล่าว

นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้โลกที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสามารถลงทุนได้ หรือ Investment Grade นอกจากจะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในช่วงนี้แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม เพราะการลงทุนตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสามารถลงทุนได้ ถือเป็นการลงทุนในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ และยังช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกอีกด้วย

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ส.ค. 2566 เวลา : 11:25:44
09-05-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (9 พ.ค.68) บวก 4.35 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,210.94 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,250 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,340 เหรียญ

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 พ.ค.68) ลบ 5.67 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,200.92 จุด

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (8 พ.ค.68) ร่วง 85.90 เหรียญ หลังสหรัฐ-อังกฤษ บรรลุข้อตกลงการค้า

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (8 พ.ค.68) พุ่ง 254.48 จุด ขานรับ "สหรัฐ-อังกฤษ" บรรลุข้อตกลงการค้า

6. อุตุฯเตือนระวัง "พายุฤดูร้อน" วันนี้ "ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก" ฝนฟ้าคะนอง 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง 30% ภาคใต้ 30-40%

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (9 พ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 33.02 บาทต่อดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (9 พ.ค. 68) ร่วงลง 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,450 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (9 พ.ค.68) บวก 6.28 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,212.87 จุด

11. ประกาศ กปน.: 13 พ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านใต้) และถนนอนามัยงามเจริญ

12. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (8 พ.ค.68) ลบ 13.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,206.59 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (8 พ.ค.68) ลบ 7.43 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,212.84 จุด

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (7 พ.ค.68) ร่วง 30.90 เหรียญ รับสงครามการค้าส่งสัญญาณคลี่คลาย

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,380 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,425 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 9, 2025, 6:34 pm