เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "กรอบบนยังถูกจำกัด"


SET แม้ได้ sentiment บวก จากตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม คาดดัชนียังมีกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1385 และ 1393 จุด ตามลำดับ และในภาพรวมดัชนียังดูมี downside ด้านแนวรับอยู่ที่ 1370 จุด หากต่ำกว่า เป็นสัญญาณลบต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด

ประเด็นสำคัญ

• ก. แรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 1 พันราย สู่ระดับ 2.20 แสนราย แต่ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.22 แสนราย

• อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกฯ รัสเซียระบุ OPEC+ พร้อมลดปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มใน 1Q67 เพื่อขจัดการเก็งกำไรและความผันผวนในตลาด

• พาณิชย์รายงานเงินเฟ้อทั่วไป พ.ย. 66 ลดลง 0.44%YoY ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน จากราคาพลังงานลดลง รวมถึงราคาอาหาร (เนื้อสุกร ไก่สด น้ำมันพืช) ลดลง

• OECD ประเมินแนวโน้ม ศก. ไทยปีหน้าจะขยายตัวได้ 3.6% ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง รวมถึงตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวได้ดี ขณะที่การส่งออกยังขยายตัวไม่ดีแต่มีแรงขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยว

• กบง. มีมติเห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซ LPG ที่ 20.91 บ./กก. (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 423 บ./ถัง 15 กก. ต่ออีก 3 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 67 เพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชน

• ตลท. ระบุผลสำรวจ บจ.ไทย มีมุมมองบวกต่อ ศก. ไทยปีหน้าจะฟื้นตัวได้ดีจากปีก่อน ปัจจัยหนุนมากสุด คือ ภาคการท่องเที่ยว ส่วนปัจจัยเสี่ยงกังวลหนี้ภาคครัวเรือน ท่ามกลางต้นทุนแรงงาน พลังงาน และราคาวัตถุดิบแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมกังวลการจ่ายคืนหนี้ของลูกหนี้การค้าเริ่มมีโอกาสหนี้สูญเพิ่มขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน

เรามองช่วงสั้น SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังคาดจะเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ทยอยเข้ามาซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นไทย โดยคาดหวังการฟื้นตัวของหุ้นขนาดใหญ่หลังราคามีการปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังปรับตัวลงแรงก่อนหน้านี้และคาดหวังมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ทยอยเข้ามาช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้

1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” และ (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO ขณะที่หุ้น ESG Rating “A” ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงแรงมากในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ AOT

2) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำเริ่มลงทุนแบบ Dollar-Cost-Average (DCA) เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมากและราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง

ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลซึ่งจะมีการประชุม ครม. 12 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH SPALI SIRI QH AP) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

DAILY TOP PICKS

AP เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” คาด 4Q66 ยอดขายรายไตรมาสจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเปิดตัวโครงการใหม่ 23 โครงการ มูลค่ารวม 3.57 หมื่นลบ. และด้วย backlog ที่แข็งแกร่ง คาดปี 2566 จะมีกำไรสุทธิที่ 6.24 พันลบ. เติบโต 6.2% ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง

CPALL เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” คาดกำไร 4Q66 โตเด่น YoY เมื่อเทียบกับ บ. อื่นๆ ในกลุ่มพาณิชย์ หนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นของธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้น ต้นทุนค่าไฟลดลง และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจาก CPAXT หลังรีไฟแนนซ์หนี้เสร็จเมื่อปลายเดือน เม.ย. 66
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ธ.ค. 2566 เวลา : 11:29:38
11-05-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 10 พ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 4 ตัดถนนรัชดาภิเษก

2. ตลาดหุ้นปิด (9 พ.ค.68) บวก 4.35 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,210.94 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,250 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,340 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (9 พ.ค.68) ลบ 5.67 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,200.92 จุด

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (8 พ.ค.68) ร่วง 85.90 เหรียญ หลังสหรัฐ-อังกฤษ บรรลุข้อตกลงการค้า

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (8 พ.ค.68) พุ่ง 254.48 จุด ขานรับ "สหรัฐ-อังกฤษ" บรรลุข้อตกลงการค้า

7. อุตุฯเตือนระวัง "พายุฤดูร้อน" วันนี้ "ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก" ฝนฟ้าคะนอง 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง 30% ภาคใต้ 30-40%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (9 พ.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 33.02 บาทต่อดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (9 พ.ค. 68) ร่วงลง 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 52,450 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (9 พ.ค.68) บวก 6.28 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,212.87 จุด

12. ประกาศ กปน.: 13 พ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนกาญจนาภิเษก (ด้านใต้) และถนนอนามัยงามเจริญ

13. ตลาดหุ้นปิดวันนี้ (8 พ.ค.68) ลบ 13.68 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,206.59 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (8 พ.ค.68) ลบ 7.43 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,212.84 จุด

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (7 พ.ค.68) ร่วง 30.90 เหรียญ รับสงครามการค้าส่งสัญญาณคลี่คลาย

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 11, 2025, 4:29 pm