เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย "ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ในไทยจะส่งผลให้เกิดแผนธุรกิจและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่"


· ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขันในภาคการเงินการธนาคารไทย เกิดผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่มีลูกเล่นมากขึ้นเพื่อเจาะตลาดลูกค้าเป้าหมาย


· การแข่งขันในตลาดคงรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่จะอยู่ในตลาดลูกค้ากลุ่มใด ขึ้นอยู่กับการตีกรอบเงื่อนไขการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ปัจจุบันก็สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เช่นเดียวกัน

ในระยะอันใกล้นี้ (ช่วงกลางปี 2569) คาดว่ามีธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank)1 เริ่มดำเนินการในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขันในภาคการเงินการธนาคาร โดยมีประเด็นที่ต้องจับตามองในระยะข้างหน้า ดังนี้

การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ที่หลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ผู้เล่นในตลาดประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น

ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มีการนำเสนอดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ระยะเวลาในการฝากประจำสั้นลง และคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน ร่วมกับมีลูกเล่นทางการตลาดหรือให้สิทธิประโยชน์พิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อดึงดูดเงินออม ดังเช่นผลิตภัณฑ์เงินฝากของผู้เล่นในต่างประเทศ อาทิ การให้โบนัสพิเศษเมื่อลูกค้าฝากเงินได้ครึ่งทางหรือเมื่อครบกำหนด การแบ่งเงินออมในบัญชีเป็น Pocket ตามวัตถุประสงค์ การแจกสติ๊กเกอร์หรือตัวการ์ตูนดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะหรือมีจำกัด การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงดิจิทัลด้วยการป้อนเงินฝากเป็นอาหาร การฝากเงินเพื่อสนับสนุนศิลปินหรือสมาชิกในวงไอดอลที่กำลังออดิชั่น ซึ่งเป็นการเจาะตลาดคนรุ่นใหม่เป็นหลัก
 

 
 
ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่จะมีความยืดหยุ่นและข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม อย่างเช่น ดอกเบี้ยลดลง มีกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เร็วขึ้น รวมถึงลดเงื่อนไขด้านคุณสมบัติของผู้กู้ ไม่ว่าจะเป็นอายุหรือรายได้ เป็นต้น เพื่อทำการแย่งชิงฐานลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่ไม่ได้รับบริการทางการเงินอย่างเพียงพอและเหมาะสม (Underserved) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกับธนาคารพาณิชย์ในปัจุบัน ซึ่งในกรณีนี้ WeBank และ MYBank ของจีนก็ทำสำเร็จจากการมุ่งให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าและผู้ประกอบการรายย่อยระดับ Micro SMEs โดยใช้จุดแข็ง

จากการอนุมัติสินเชื่อเพียงหลักนาที ขณะที่ทาง Kakao Bank ในเกาหลีใต้ก็ประสบความสำเร็จจากการทำการตลาดกับคนทั่วไปกลุ่มวัยทำงานในผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์ภายใต้ข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของไทย ลูกเล่นของผลิตภัณฑ์ทั้งเงินฝากและสินเชื่อข้างต้น ธนาคารพาณิชย์ไทยในปัจจุบันสามารถลงมาแข่งขันได้ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้อัตราดอกเบี้ยรายเดือน การแยก Cloud Pocket เพื่อให้มีการออมตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด การเปลี่ยนภาพพื้นหลังของสลิปเงินโอนได้ตามตัวเลือกที่ต้องการ ส่วนด้านสินเชื่อ ก็มีการให้บริการสินเชื่อดิจิทัลในวงเงินขนาดเล็กให้แก่ลูกค้ารายย่อยด้วยระยะเวลาอนุมัติในหลักชั่วโมง เป็นต้น

ประเด็นจับตา จึงอยู่ที่การตีกรอบเงื่อนไขของการทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาของไทย ที่ทางการกำหนดว่าจะต้องให้บริการกับกลุ่มที่ไม่ได้รับบริการทางการเงินอย่างเพียงพอและเหมาะสม (Underserved) หรือกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Unserved) ซึ่งจะแตกต่างจากกรณีของเกาหลีใต้ หรือสิงค์โปร์ ที่เน้นการให้ใบอนุญาตธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดมากกว่าจะเน้นการเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ให้กับกลุ่มประชากรข้างต้น

อย่างไรก็ดี เนื่องจากการกำหนดทุนขั้นต่ำของการสมัครใบอนุญาตธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาในไทยที่จะต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท เมื่อพ้นระยะแรกของการประกอบธุรกิจ ซึ่งเมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียนชำระแล้วของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ในปัจจุบันที่อยู่ในช่วงประมาณ 19,000 – กว่า 90,000 ล้านบาท และขนาดกลางและเล็กที่อยู่ในช่วง 5,800 – 25,000 ล้านบาท สะท้อนความต้องการเห็นธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ นั่นหมายความว่า หากมีความยืดหยุ่นในการตีความธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา ก็อาจทำให้เห็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในกลุ่มลูกค้าปัจจุบันที่ทับซ้อนกันได้ อาทิ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงาน (First Jobbers) ที่มีศักยภาพ รวมถึงตลาดสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับเงื่อนไขสินเชื่อใหม่ที่ดีกว่าเดิม

ภายใต้บริบททางการเงินของครัวเรือนไทยที่ส่วนใหญ่มีหนี้สูง ขณะที่คนไทยยังมีการเก็บออมน้อย สะท้อนจากการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยที่พบว่า มีคนไทยเพียงร้อยละ 15.7 เท่านั้นที่มีการวางแผนเกษียณและสามารถเก็บออมได้ตามแผนที่วางไว้2 คงทำให้ผู้เล่นธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก ดังนั้น ความมั่นคงด้านเงินทุนตั้งต้น ความเชี่ยวชาญด้านการประกอบธุรกิจการเงินการธนาคาร ความสามารถในการประยุกต์ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการเติมเต็มระบบนิเวศ (Ecosystem) กับพันธมิตรทางธุรกิจเป้าหมาย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงของลูกค้าและตัวธุรกิจเอง การคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตลอดจนการหาโอกาสในการทำกำไรจากการล็อคให้ลูกค้าใช้ชีวิตอยู่ใน Ecosystem ที่สร้างขึ้น

สุดท้ายแล้ว ก็เพื่อทำให้ธนาคารไร้สาขาสามารถออกแบบโมเดลธุรกิจที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีฟีเจอร์แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ปัจจุบัน ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ทางการต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง อันจะส่งผลดีต่อพัฒนาการของภาพรวมของระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 เม.ย. 2567 เวลา : 14:16:09
08-05-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: ด่วน!!! คืนวันพรุ่งนี้ 9 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเจริญกรุง

2. ตลาดหุ้นปิด (8 พ.ค.67) ลบ 3.04 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,373.33 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (8 พ.ค.67) บวก 1.10 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,377.47

4. MTS Gold คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,300 เหรียญ และแนวต้าน 2,325 เหรียญ

5. ทั่วไทยวันนี้ฝนฟ้าคะนอง "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคใต้" ฝนกระหน่ำ 60% ส่วนภาคอื่นๆ 40%

6. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (7 พ.ค.67) บวก 31.99 จุด รับคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยปีนี้-บอนด์ยีลด์ร่วง หนุนตลาด

7. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (7 พ.ค.67) ร่วง 7 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งฉุดตลาด

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (8 พ.ค.67) บวก 1.49 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,377.86 จุด

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.15 บาท/ดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาด (8 พ.ค. 67) ปรับขึ้น 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 40,950 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (8 พ.ค.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์

12. ข่าวดี!!! พรุ่งนี้ น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ลด 50 สตางค์/ลิตร

13. ตลาดหุ้นปิด (7 พ.ค.67) บวก 6.45 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,376.37 จุด

14. ประกาศ กปน.: 14 พ.ค. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว

15. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,300 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,340 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 8, 2024, 7:01 pm