หลายคนจับจ้องประเด็นการเมืองกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ 4 ฉบับ ที่ฝ่ายรัฐบาลหยิบยกให้มีการพิจารณาเลื่อนเป็นวาระเร่งด่วนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนเสื้อหลากสี ออกมาชุมนุมประท้วงคัดค้านพร้อมยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎรให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออก เพราะจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศไทย ซึ่งในที่สุดแล้วยังไม่รู้ว่าผลดังกล่าวจะออกมาอย่างไร เพราะฝ่ายรัฐบาลก็พยายามที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้ผ่านสภาฯเสร็จสิ้นโดยเร็ว ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็บอกจะพยายามสู้ให้ถึงที่สุด และยอมไม่ได้ที่จะให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกใช้เป็นกฎหมาย จึงไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้จะบานปลายยืดเยื้อไปแค่ไหน และจะเกิดความรุนแรงเหมือนที่เคยเกิดมาหรือไม่

แต่ขณะนี้ผลกระทบระยะสั้นได้เกิดขึ้นแล้วต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุน ที่ต่างหวาดกลัวว่าเหตุการณ์จะบานปลายและลงเอยที่มีการต่อสู้และนองเลือดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมา ทำให้ในวันนี้การซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ดัชนีร่วงลงกว่า 15 จุด โดยตลอดทั้งวันดัชนีอยู่ในแนวลบ และไม่สามารถยืนขึ้นเหนือระดับ 1,150 จุดได้ จนปิดตลาดดัชนีหล่นมาอยู่ที่ 1,138.63 จุด และพรุ่งนี้ก็เชื่อว่าปัจจัยลบด้านการเมืองดังกล่าวยังคงซ้ำเติมตลาดหุ้นไทยให้อยู่ในแดนลบต่อไป

ขณะที่ค่าเงินบาทวันนี้ปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับอ่อนสุดในรอบ 4 เดือน จากผลจากปัจจัยลบทางการเมือง และได้รับข่าวร้ายจากพันธบัตรของสเปนถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ปิดตลาดค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่  31.85/87 บาทต่อดอลลาร์ จากเปิดตลาดช่วงเช้านี้ที่ระดับ 31.80/82 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) เชื่อว่าเงินบาทยังคงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยลบทางการเมืองให้อ่อนค่าลงอีก ประกอบกับเป็นช่วงสิ้นเดือนที่ผู้นำเข้าสินค้าจะต้องนำเงินบาทไปแลกซื้อดอลลาร์เพื่อชำระค่าสินค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงในช่วงนี้