บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-13 ก.ค.) เงินบาททดสอบระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ วิกฤตหนี้ยุโรป และสัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกยังคงกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง

เงินเอเชีย และเงินบาท โดยในระหว่างสัปดาห์ ความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยุโรปเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่คืบหน้าในการผลักดันเครื่องมือแก้วิกฤต โดยเฉพาะกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) จากที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซน ขณะที่ แรงกดดันต่ออิตาลีและสเปนเพิ่มมากขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังจากอิตาลีถูกปรับลดอันดับเครดิตโดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส อย่างไรก็ดี เงินบาทและเงินเอเชียฟื้นตัวขึ้นบางส่วน หลังการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2555 ของจีน ซึ่งแม้จะสอดคล้องกับที่ตลาดคาด แต่ก็ทำให้ตลาดมีความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการจีนในระยะข้างหน้า

 ในวันศุกร์ (13 ก.ค.) เงินบาทอ่อนค่ามาที่ 31.64 เทียบกับระดับ 31.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ก.ค.)

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (16-20 ก.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.60-32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรป (การลงนามความช่วยเหลือสเปน และการเจรจาของกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ Troika) ตลอดจนแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย เดือนก.ค. ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ เดือนพ.ค. และสรุปภาวะเศรษฐกิจรายเดือนของเฟด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์