"ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินที่เพิ่มสูงขึ้น"
เบรนท์ส่งมอบ ก.พ. ปรับลดลง 0.18 ปิดที่ 111.76 เหรียญฯ  และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.05 ปิดที่ 93.10  เหรียญ
     
 	- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านหลังงานของสหรัฐฯ  (EIA) รายงานว่าตัวเลขปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 7.4  ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล  โดยที่สต็อกที่จุดส่งมอบน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส  คุชชิ่งโอคลาโฮมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50.08 ล้านบาร์เรล
 	- ทั้งนี้ EIA รายงานว่า  ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 7  ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา  นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์อีกว่าปริมาณการผลิตดังกล่าวจะปรับตัวสูงขึ้นอีก  900,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2013 และ 600,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2014  ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 25 เปอร์เซนต์ ภายใน 2 ปี
 	- ในขณะที่ EIA คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก  รวมทั้งสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้นถึง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ทำให้โอเปกอาจจะต้องปรับลดกำลังการผลิตลงประมาณ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน  เพื่อไม่ให้น้ำมันดิบล้นตลาด อย่างไรก็ตาม EIA  คาดกลุ่มโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันดิบในระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 	+ นอกจากนี้ EIA คงคาดการณ์ปริมาณอุปสงค์ของน้ำมันดิบในปี 2013  จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 90.1  ล้านบาร์เรลต่อวัน  เนื่องจากปริมาณความต้องการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นจากประเทศจีน และอินเดีย
 	
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ  เนื่องจากความต้องการนำเข้าจากมาเลเซียที่ลดลง  ในขณะที่ตลาดจับตารอการกลับเข้ามาซื้อของเวียดนามสำหรับเดือน ก.พ.56
 	ราคาน้ำมันดีเซล  ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ  เนื่องจากความต้องการเพื่อเตรียมรับเทศกาลตรุษจีน  และการสำรองเพื่อรองรับความต้องการในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของหลายโรงกลั่น
 	ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
 	กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 108 -115 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88 - 95 เหรียญฯ
จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป การผลิตภาคอุตสาหกรรมฝรั่งเศส รวมทั้งยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
 	ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: การประชุมธนาคารกลางยุโรป การผลิตภาคอุตสาหกรรมฝรั่งเศส รวมทั้งยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
วันศุกร์: ดุลการค้าสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้บริโภคจีน
แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะสามารถผ่านร่างแนวทางเลี่ยงปัญหาหน้าผาการคลังได้ใน ช่วงปีใหม่ อย่างไรก็ดีหลายฝ่ายรวมทั้ง IMF  ออกมาเตือนว่าแนวทางดังกล่าวยังไม่แก้ปัญหาหนี้ในภาพรวมแต่เป็นเพียงการยืด เส้นตายเท่านั้น สภาสหรัฐฯยังจำเป็นต้องถกกันต่อในช่วง 2  เดือนข้างหน้าในประเด็นการตัดลดงบรายจ่ายและเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งในประเด็นดัง กล่าวพรรครีพับลิกันมีจุดยืนที่ต้องการให้รัฐบาลปรับลดรายจ่ายในหลายภาคส่วน ลง
- ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรปวันที่ 10 ม.ค. 2556  ว่าธนาคารกลางยุโรปจะมีมุมมองอย่างไรต่อสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์หนี้สินใน ยุโรป รวมถึงติดตามว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่
- ติดตามผลการเจรจาครั้งใหม่ระหว่าง IAEA  และอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ในวันที่ 16 ม.ค. 56 อย่างไรก็ตาม  การที่สหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมภายในเดือน ก.พ. ปี  56 อาจส่งผลให้การเจรจาดังกล่าวล้มเหลว
- จับตาการเปิดใช้ส่วนต่อขยายของท่อส่งน้ำมัน Seaway Pipeline  ในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่จะทำให้กำลังการขนส่งรวมเพิ่มเป็น 400,000  บาร์เรลต่อวัน จาก 150,000 บาร์เรลต่อวัน ในปัจจุบัน  และจะทำให้การขนส่งน้ำมันออกจากจุดส่งมอบน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสบริเวณคุ ชชิ่ง โอกลาโฮมาไปยังโรงกลั่นในบริเวณรัฐเท็กซัสเพิ่มมากขึ้น
ข่าวเด่น