ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยเมิร์ก แอนด์ โค เปิดเผยว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 88 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นเมิร์กปิดทะยานขึ้น 3.6%
หุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 5.4% ขณะที่หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดสมาชิกในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นเป็น 255 ล้านคน หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 3.6% และหุ้นคลาสซี ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.6%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 82.3 จากระดับ 83.9 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองบวกลดน้อยลงเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น 12.9% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวจาก 13.2% ในเดือนม.ค. และจากระดับ 13.4% ในปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง
ข่าวเด่น