ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ชี้ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้: รีบาวด์ ลุ้น BOJ ผ่อนคลายการเงินเพิ่ม-เลิกอัยการศึก


 สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -27.15 จุด แห่ขายลดความเสี่ยง กลัวหุ้นลงต่อเนื่อง

SET แกว่งลงในกรอบ 1542-74 สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น หุ้นไทยร่วงเร็วจนทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน ขณะที่ World Bank ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 57-58F ลง ส่งผลให้นลท.แห่ขายหุ้นลดความเสี่ยง ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 184 ลบ. แต่ Short SET50 Index Futures 5,538 สัญญาเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่อง 
 
ทิศทางตลาดวันนี้: รีบาวด์ ลุ้น BOJ ผ่อนคลายการเงินเพิ่ม-เลิกอัยการศึก
หุ้นโลกเมื่อคืน (6 ต.ค.) ปิดไร้ทิศทางแคบ ๆ นลท.ใช้ความระมัดระวังการลงทุน รอดูรายงานประชุม FED ครั้งก่อน (16-17 ก.ย.) และจับตาผลประกอบการ 3Q57 บจ.ที่จะเริ่มทยอยประกาศในกลางสัปดาห์นี้เป็นต้นไป สถานการณ์ความวุ่นวายในฮ่องกงคลี่คลายลงมาก หลังกลุ่มนักศึกษาบางตาลงมากและยอมคืนพื้นที่ตามเส้นตายเมื่อวาน ส่งผลให้หน่วยงานราชการ, ภาคธุรกิจ, โรงเรียนกลับมาเปิดทำการตามปกติแล้ว ด้านปัจจัยในปท. แม้ World Bank ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57-58F เป็น 1.5% และ 3.5% จากเดิม 3.0% และ 4.5% ตามลำดับ แต่มองเป็นการปรับตามหลังตลาดที่ปรับไปแล้วก่อนหน้านี้ เรายังประมาณการศก.ไทยโต 1.5% และ 5.3% ในปี 57-58F ในหลวงทรงโปรดเกล้าฯ สมาชิกสปช.จำนวน 250 คนแล้ว  มอง SET เมื่อวานลงหนักเกินไป มีโอกาสดีดกลับทางเทคนิค ติดตาม (1) ลุ้นการประชุม BOJ 6-7 ต.ค. อาจผ่อนคลายการเงินเพิ่ม หลังการฟื้นตัวทางศก.เริ่มสะดุดหลังขึ้น VAT และงบดุลของ BOJ ใกล้แตะระดับเป้าหมาย QE (2) คสช.-ครม.เตรียมหารือยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ใน 7 ต.ค. อย่างไรก็ดี กรอบการรีบาวด์ยังจำกัด มีแนวต้าน 1550-55 แนวรับ 1540+/- เพราะภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงการแกว่งลง สำหรับตลาดหุ้นจีนปิดทำการต่อจนถึง 7 ต.ค. และจะกลับมาเปิดทำการพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) 
 
 กลยุทธ์การลงทุน: เริ่มทยอยสะสมแบบไม่รีบร้อน ตลาดยังต้องใช้เวลาปรับฐาน
มอง SET ปัจจุบันที่ร่วงลงมาอยู่แถว 1540+/- เป็นระดับที่น่าสนใจต่อการทยอยสะสมแล้ว เพียงแต่การทยอยซื้อรอบนี้ ต้องถือทนแกว่ง เพราะระยะเวลาในการปรับฐานยังน้อยเกินไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีก 1-2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย กว่าจะเริ่มตั้งไข่และขยับขึ้น เรายังคงมอง SET มีโอกาสกลับมาวิ่งขึ้นไปทดสอบแถว 1650 ภายในไตรมาส 4/57 และ 1700 ภายในไตรมาส 1/58 (อิงตามตัวแบบความสัมพันธ์ระหว่าง GDP, มูลค่าตลาดรวม และ SET ของเรา) ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ (1) การเร่งตัวของ GDP ไทยนับจากนี้ไปจนถึงไตรมาส 3/58 (2) เม็ดเงิน LTF & RMF ที่คาดว่าจะไหลเข้าในไตรมาส 4/57 ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นลบ. (3) โอกาสการยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ (4) โอกาสการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมจากธนาคารกลางสำคัญของโลก อาทิ ECB, BOJ, PBOC ในอนาคต
•หุ้นพื้นฐานทยอยสะสมช่วงอ่อนอตัวรอบนี้ (หวังผลปลายปี) BBL, CK, KBANK, LPN, MC, SAMART, SPALI, TMB
•หุ้นเทรดดิ้งสั้น (ต้องรับความเสี่ยงได้สูง) (1) การยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ AAV, AOT, CENTEL  (2) หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน หลังเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่า – GFPT, TUF, BJCHI, STPI (3) หุ้นมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค – PCSGH (4) หุ้นหลีกเลี่ยง – หุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี (ESSO, IRPC, TOP, PTTGC, PTTEP, IVL) จากราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง และงบ Q3 ไม่ดี มีขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน
•TISCO Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ (6-10 ต.ค.) แนะนำคงสัดส่วนถือหุ้นเพียง 10% และถือ MEGA ต่อ
•หุ้นเด่น (Top picks) เดือน ต.ค. (TISCO Smart Tactics) คือ BCP, BTS, CPN, GFPT, LPN, TUF 
 
หุ้นเด่นรายวัน: ไม่มี
 
ปัจจัยติดตาม
6-7 ต.ค.
JPประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
 
7 ต.ค.
THคสช.และครม.นัดหารือยกเลิกกฏอัยการศึก (บางพื้นที่)
GEตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันในเดือน ส.ค.
 
8 ต.ค.
JPตัวเลขดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน ส.ค.
 USรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ครั้งก่อน (16-17 ก.ย.)
 

บันทึกโดย : วันที่ : 07 ต.ค. 2557 เวลา : 11:33:05

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 6:14 am