-/+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค. 57 ว่ามีปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 8.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันดิบนำเข้าเพิ่มขึ้น 28,000 บาร์เรลต่อวันและโรงกลั่นน้ำมันลดกำลังผลิตลงมาอยู่ที่ระดับ 233,000 บาร์เรลต่อวัน  ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 4 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดีเซลปรับลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

- แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ยังล้นตลาด ประกอบกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปคไม่มีทีท่าจะลดกำลังการผลิตลง อีกทั้งนักลงทุนยังมีความกังวลต่ออุปสงค์ที่อยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะอุปสงค์ของน้ำมันอากาศยาน เนื่องจากมีปริมาณการบินลดน้อยลงจากความหวาดกลัวของการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบล่า

 

+ การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.0% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. ที่ระดับ -0.1% และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% จากตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี

 

- ดัชนีราคาผู้บริโภคยุโรปเดือน ก.ย. ปรับตัวลดลงใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาอยู่ที่ระดับ 0.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 52 และปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 0.4% 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาของน้ำมันเบนซินอยู่ในระดับต่ำ จึงส่งผลให้มีแรงซื้อน้ำมันเบนซินเข้ามาในตลาดมากขึ้น ประกอบกับมีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมัน Taiwan's Formosa จะทำการหยุดซ่อมบำรุงในช่วงเดือน พ.ย. ถึงกลางเดือน ธ.ค. ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันเบนซินส่งออกน้อยลง 70,000 ตัน

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมัน Taiwan's Formosa จะทำการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันดีเซลส่งออกลดลง 160,000 ตัน รวมถึงหน่วยผลิตน้ำมันดีเซลของโรงกลั่นในกลุ่มอาเซียนต้องหยุดซ่อมบำรุงกระทันหันเป็นเวลา 15 วัน ทำให้มีความต้องการน้ำมันดีเซลเพิ่มมากขึ้น

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 80-85 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 83-88 หรียญฯ

 

จับตาทีท่าของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง เพื่อมาพยุงราคาน้ำมันไว้หรือไม่ ล่าสุดโอเปกพยายามที่จะเพิ่มศักยภาพการส่งออกให้มากขึ้น เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากประเทศผู้ผลิตที่อยู่นอกกลุ่ม ประกอบกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบีย ยืนยันว่าสามารถยอมรับราคาน้ำมันดิบที่ระดับต่ำในขณะนี้ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าซาอุดิอาระเบียคงจะไม่ปรับลดปริมาณการผลิตลงในเร็ววันนี้

 

ติดตามการประกาศจีดีพีจีน ไตรมาส 3/57 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวลดลงจาก 7.5% สู่ระดับ 7.2% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจจีนอาจแตะระดับต่ำสุดแล้วเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 4 นี้ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายการคลังและการเงิน ตลอดจนแนวโน้มการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น

 

วันพฤหัสการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ - ก.ย. 57

ดัชนีราคาผู้บริโภคยุโรป - ก.ย. 57

วันศุกร์ยอดการขอสร้างบ้านใหม่ - ก.ย. 57

จีดีพีไตรมาส2/57 ยุโรป

วันอังคารจีดีพีจีน ไตรมาส 3/57

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน - ก.ย. 57

ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ - ก.ย. 57

วันพุธดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ - ก.ย. 57

ดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC) - ต.ค. 57

วันพฤหัสดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (Markit) - ต.ค. 57

ดัชนีภาคการผลิตยุโรป (Markit) - ต.ค. 57

วันศุกร์ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ - ก.ย. 57