ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 12 -16 ต.ค. 58 และสรุปสถานการณ์ฯ 5-9 ต.ค.58


แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 12 – 16 ต.ค. 58)  
            

ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มผันผวน จากการที่ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ จะมีการปรับลดปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบลงต่อเนื่องตามสภาวะราคาน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำซึ่งไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ประกอบกับรัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด และเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ มีการลดกำลังการกลั่นลงตามการปิดซ่อมบำรุงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่ชะลอตัวลง หลังจากผ่านช่วงฤดูร้อน

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
            

จับตารายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องกว่า 5 สัปดาห์ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับ 614 หลุม ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 53 หลังราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำไม่คุ้มค่ากับการลงทุน โดยการปรับลดการขุดเจาะของผู้ผลิต ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดที่ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ประมาณ 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดว่าปริมาณการผลิตมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องไปอยู่ที่ระดับ 8.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 59 แม้ว่าผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ จะปรับลดต้นทุนการผลิตลงแล้วบางส่วน แต่ก็ยังไม่คุ้มค่ากับการผลิตในหลุมใหม่
             

ติดตามการรายงานข้อมูลการส่งออกของจีนว่าจะมีทิศทางอย่างไร หลังการส่งออกในช่วงที่ผ่านมามีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตามภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง  แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะมีความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 57 ที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว โดยล่าสุดรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ การลดเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านหลังแรกลงจากเดิมที่ร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 25 และการปรับลดภาษีรถยนต์สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กกว่า 1.6 ลิตร ซึ่งมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 87 อย่างไรก็ดี จากการคาดการณ์ของนักลงทุน มาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการพยุงเศรษฐกิจและในเร็วนี้รัฐบาลจะต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
            

จับตารัสเซียและกลุ่มโอเปกว่าจะมีการประชุมเพื่อปรับลดกำลังการผลิตลงหรือไม่ หลังล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าการประชุมระหว่างรัสเซียและซาอุดิอาระเบียจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ดี จากข้อมูลล่าสุด ทั้งรัสเซียและซาอุดิอาระเบียยังคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูงกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
             

ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศซีเรีย ที่อาจสร้างความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประเทศมหาอำนาจชาติตะวันตกและรัสเซีย หลังวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา รัสเซียส่งเครื่องบินรบไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อขับไล่กลุ่มไอเอสในซีเรีย แต่อย่างไรก็ตามอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ออกมากล่าวว่าแท้จริงแล้วการโจมตีของรัสเซียไม่ได้เป็นการขับไล่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่เป็นการโจมตีกลุ่มต่อต้านของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาต แห่งซีเรีย ซึ่งการโจมตีดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มชาติตะวันตกหลายประเทศออกมาวิจารณ์รัสเซีย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา รัสเซียยังคงเดินหน้ายกระดับการโจมตี โดยการเพิ่มการโจมตีทางภาคพื้นดิน โดยมีการยิงขีปานาวุธพิสัยไกลกว่า 26 ลูกจากเรือรบ 4 ลำในทะเลแคสเปียน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดส่งออกจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน สหรัฐฯ และยุโรป ดัชนีราคาผู้ผลิตจีน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยุโรปและสหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (5 ต.ค. – 9 ต.ค.)

               

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น  4.09 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 49.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.52 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 52.65 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 49 เหรียญสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่มีการปรับลดการขุดเจาะน้ำมันดิบลงอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดคาการณ์ว่าการประชุมกันระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก 2 รายคือรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ในช่วงปลายเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย. อาจจะมีการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบขึ้น
                
                
                
               


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ต.ค. 2558 เวลา : 18:03:09

26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 4:17 pm