ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 16-20 พ.ย.58 และสรุปสถานการณ์ฯ 9-13 พ.ย.58


แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (15 - 20 พ.ย. 58)
  

ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาด เนื่องจากผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังคงปริมาณการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดและเพื่อรองรับรับกับอุปสงค์ที่ทางกลุ่มคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นในฤดูหนาว รวมถึงมีการเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศกลุ่มตะวันตกมากขึ้น นอกจากนั้นราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงตามจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี มีส่วนสนับสนุนราคา

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
  

ผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังคงปริมาณการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดและต้องการเพิ่มสัดส่วนการขายในตลาดใหม่ให้มากขึ้น โดยล่าสุดได้ดำเนินกลยุทธ์ใหม่โดยเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มตะวันตกมากขึ้นหลังจากที่มีการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในเอเชียให้กับรัสเซีย โดยล่าสุดในเดือน พ.ย. อิรักได้มีการปรับลดราคาขายน้ำมันดิบไปยังตลาดอเมริกาลงอย่างมาก ส่งผลให้ปริมาณส่งออกน้ำมันดิบไปยังสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่าร้อยละ 40 ในเดือนดังกล่าวมาอยู่ที่ระดับประมาณ 660,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 55 ขณะเดียวกันซาอุดิอาระเบียก็ได้มีการปรับลดราคาขายน้ำมันดิบที่ส่งไปยังยุโรปลงด้วย โดยปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดและไม่มีทีท่าจะปรับลดการผลิตแต่อย่างใด สะท้อนให้เห็นว่าภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินจะยังคงไม่คลี่คลายในเร็วนี้
  

จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อ หลังมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลากว่า 7 สัปดาห์ติดต่อกัน สาเหตุจากโรงกลั่นมีการปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับมีปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังส่วนต่างราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่แคบลง ทำให้มีการหันไปนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด
  

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีการส่งสัญญาณว่าจะมีการพิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดแรงงาน ซึ่งล่าสุดอัตราการว่างงานลดลงแตะระดับ 5.5%
  

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีการปรับลดปริมาณการขุดเจาะลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากรายงานของ Baker Hughes  พบว่าปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ย. ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 10 สัปดาห์ติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 572 หลุม ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. 53 โดยผลดังกล่าวส่งผลให้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะปรับลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่ระดับ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ‘
  

สถานการณ์การประท้วงของสหภาพแรงงานของบริษัทน้ำมันแห่งชาติของบราซิลหรือ Petrobras ยังคงส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ Petrobras ลดลงไปกว่า 115,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าล่าสุด Petrobras ได้เสนอขึ้นค่าแรงให้กว่าร้อยละ 9.58 และพร้อมที่จะมีการเจรจาและแก้ไขข้อตกลงร่วมกันกับกลุ่มสหภาพแรงงานแล้วก็ตาม
  

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซนและสหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซนและสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (2 – 6 พ.ย.)

  

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 3.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 40.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง 2.95 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 44.47 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 41 เหรียญสหรัฐฯ โดยตลาดได้รับแรงกดดันจาก ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรัก และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจาก การประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงานของบริษัทน้ำมันในบราซิล เพื่อเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรง นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม หลังสำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA ได้เปิดเผยข้อมูลการคาดการณ์เกี่ยวกับการลงทุนทางด้านการขุดเจาะน้ำมันในปีนี้ว่าจะปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 20 และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

 

 
               


บันทึกโดย : วันที่ : 16 พ.ย. 2558 เวลา : 17:45:11

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 2:41 am