ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
แนวโน้มราคาทอง (21มี.ค.59) โดย YLG Bullion International


 


สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 18 มีนาคม 2559
 


 สภาวะตลาดวันที่ 18 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,253.43-1,266.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,850 บาทต่อบาททองคำ 
 
 
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 18/03/16)
แนวโน้มวันที่ 21 มีนาคม 2559
 
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือนและมีแนวโน้มปิดตลาด สัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 1.5% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นผลการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดิ่งลง ซึ่งเพิ่มแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นไปได้ไม่ไกล เพราะดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงยังคงคลายวิตกเกี่ยวกับเงินทุนไหลออกจากจีนและได้กระตุ้นแรงซื้อตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น
 
ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าลงเช่นกัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงจึงส่งผลเชิงลบต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำอีกทาง ทั้งนี้ ราคาทองคำภายในประเทศขยับขึ้นในทิศทางที่น้อยกว่าทองคำต่างประเทศซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงของไทย เมื่ออัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1 % ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์(SNB) ยังคงดอกเบี้ยที่ระดับ -0.75% ตามเดิม และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ได้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศอัตราดอกเบี้ยในช่วงบ่ายวันพุธที่ 23 มีนาคม 2559 โดยยังคงมีกระแสคาดว่า กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อ คืนพันธบัตร(อาร์/พี) ระยะ 1 วันไว้ที่ระดับ 1.5% เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน กระแสการคาดการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าสุดที่ 34.71 ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 8 เดือนนับตั้งแต่ กรกฎาคม 2015 ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำต่างประเทศ จึงแนะนำว่า นักลงทุนสามารถหาจังหวะปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะอาจเกิดแรงขายทำกำไรราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,250-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,250 (20,610บาท)        1,239 (20,420บาท)           1,225 (20,190บาท)
แนวต้าน          1,271 (20,950บาท)        1,283 (21,150บาท)           1,291 (21,290บาท)


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 มี.ค. 2559 เวลา : 17:21:15

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 11:56 am