ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบตลอดชั่วโมงการซื้อขาย และวอลุ่มเบาบางเนื่องจากกำลังเข้าสู่วันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ปิดที่ 1,369.84 จุด เพิ่มขึน 0.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.87 หมื่นล้านบาท 
          นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันอีก 2,167 ล้านบาท และส่งผลให้ยอดซื้อสะสมสุทธิ YTD ลดลงเหลือ 13,523 ล้านบาท แต่ Long สุทธิ SET50 Index Future เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - มูลค่าการซื้อขายเบาบางเนื่องจากเข้าสู่วันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์
          - กสทช.คาดประมูลคลื่น 900MHz รอบ 2 วันที่ 27 พ.ค. เลื่อนจากเดิมที่ 22 พ.ค.
 

 
 
ประเด็นสำคัญช่วงวันหยุดยาวและสัปดาห์หน้า
          - ตัวเลขส่งออกจีน วันที่ 13 เม.ย. และ GDP 1Q59 วันที่ 15 เม.ย.
          - การประชุมระหว่างผู้ผลิตน้ำมันกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ในวันที่ 17 เม.ย.
          - ผลประกอบการ 1Q59 ของกลุ่มธนาคาร 
          - ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์สหกรณ์ 600MW ในวันที่ 18 เม.ย.

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 5)
          MBKET คาดว่า SET  INDEX วันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์  อย่างไรก็ตาม คาดว่าหาก SET INDEX ซึมตัวลงในรอบเช้า จะมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงท้ายตลาดจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนที่คาดหวังเชิงบวกต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีหลังผ่านพ้นวันหยุดยาว
ประเมินทิศทางการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มหลัก หลังผ่านพ้นวันหยุดยาว ได้แก่ 
          - กลุ่มธนาคาร คาดว่าจะยังเคลื่อนไหว Sideway เพื่อรอดูผลประกอบการ 1Q59 ที่จะทยอยประกาศตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. คาด BAY, TCAP จะเป็นธนาคารที่กำไรสุทธิเติบโต yoy & qoq ส่วนธนาคารที่เหลือคาดว่ากำไรสุทธิจะชะลอตัวลง yoy
          - กลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q59 จะเติบโต qoq จากฐานกำไรที่ต่ำใน 4Q58 ปัจจัยกำหนดทิศทางของกลุ่มนี้อยู่ที่การประชุมผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย.
          - กลุ่มสื่อสาร คาดว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรรายตัว เช่น JAS, DTAC อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของกลุ่มดูอ่อนแอลง เนื่องจากมีโอกาสถูกปรับลดประมาณการกำไรหลังเสร็จสิ้นการประมูล 4G คลื่น 900MHz รอบใหม่
          คงมุมมองเชิงบวกต่อ SET INDEX ที่คาดว่าจะฟื้นตัวและไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1390 – 1400 จุด หลังผ่านพ้นวันหยุดยาว และคาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & วัสดุก่อสร้างจะเป็นหุ้นกลุ่มเด่นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาด ให้ ITD, CK, TPIPL เป็นหุ้นเด่น

Stock Pick of The Day
          1. เก็งกำไร TSE  : ราคาปิด 4.34 บาท ราคาเหมาะสม 7.80 บาท
          a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนจะตอบรับเชิงบวกใน สัปดาห์หน้า เนื่องจากจะมีการประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์สหกรณ์ 600MW ในวันที่ 18 เม.ย.
          b) คาดว่า TSE จะเป็น 1 ในบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติและมีสิทธิเข้าจับสลากเพื่อรับการจัดสรรโครงการโซลาร์ฟาร์มในวันที่ 21 เม.ย.
          c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +9% yoy เป็น 550 ล้านบาท และซื้อขายระดับ PER2559 ที่ 14.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพลังงานทางเลือกที่ราว 20-25 เท่า 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิวันแรกในรอบ 3 วันUS$101 ล้าน จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ US$112 ล้าน 
 

Foreign Investors Action วานนี้
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยวันที่ 5 ติดต่อกัน
          นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันอีก 2,167 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 1,792 ล้านบาท  รวม 5 วันทำการขายสุทธิ 9,470 ล้านบาท  แต่ยอด YTD ซื้อสุทธิ 13,523 ล้านบาทแต่ Long สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 4,594 สัญญา จากวันก่อนหน้าที่ 3,993 สัญญา ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิลดลงเหลือ 5,035  สัญญาขณะที่ตลาดตราสารหนี้นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิ 3,631 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 395 ล้านบาท 

Short-Selling วานนี้ 
มูลค่าการทำ Short Selling ลดลงเหลือ 1,014 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ 1,474 ล้านบาท 

NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ ขายสุทธิ 134 ล้านบาท 
          การซื้อขายผ่าน NVDR คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 134 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิ 3,521 ล้านบาท โดยยังคงเป็นการลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
 

สหรัฐอเมริกา
          ไม่มี

ยุโรป
          ไม่มี

จีน          
          เงินเฟ้อของจีนใกล้เคียงคาด: 
          - ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.3% yoy ในเดือน มี.ค. เท่ากับเดือนก่อนหน้า เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดที่ +2.4% yoy นำโดยราคาอาหารเพิ่มขึ้น 7.6% yoy 
          - ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตหดตัว 4.3% yoy หดตัวลดลงจากเดือนก่อนที่ -4.9% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 4.6% yoy อีกทั้งยังเป็นการขยายตัว 0.5% mom ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2556 สำหรับการขยายตัว mom แต่การหดตัว yoy เป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง

เอเชียแปซิฟิก
          ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของมาเลเซียเท่ากับคาด: ขยายตัว 3.9% yoy ในเดือน ก.พ. เท่ากับที่ Bloomberg Consensus ประเมิน จากเดือนก่อนที่ +3.2% yoy ทั้งนี้ภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 4.5% yoy รวมถึงการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 10.5% yoy ส่วนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นเพียง 1.1% yoy 
          ส่งออกของไต้หวันหดตัวแรงกว่าคาด: ลดลง 11.4% yoy ในเดือน มี.ค. จากเดือนก่อนที่หดตัว 11.8% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดลดลง 9.5% yoy การส่งออกไปยังจีนและสหรัฐฯหดตัวต่อเนื่องอีก 15.4% และ 8.5% yoy ตามลำดับ ด้านการนำเข้าลดลง 17.0% yoy ทำให้ดุลการค้าเกินดุลที่ระดับ US$4.5 พันล้าน

ไทย
          ไม่มี


โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 12 เม.ย. 2559


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 เม.ย. 2559 เวลา : 10:18:31

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 6:03 pm