หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 6 ก.ค. 2559ราคาน้ำมันดิบปรับลด เนื่องจากความกังวลต่อ Brexit และอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลงหลังนักลงทุนกังวลต่อการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป(Brexit) ว่าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ซึ่งจะกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบ ซึ่งจะทำให้ตลาดน้ำมันดิบเกิดอุปทานส่วนเกิน นอกจากนี้ Brexit ยังส่งผลต่อการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ และต่อค่าเงินปอนด์ โดยค่าเงินปอนด์เทียบสหรัฐฯ อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 31 ปี
- Genscape รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ก.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้น 230,025 บาร์เรล
- ปริมาณการผลิตจากกลุ่มโอเปกในเดือนมิ.ย. อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 250,000บาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า หลังไนจีเรียเริ่มฟื้นตัวจากการต่อสู้ทางทหารระหว่างภาครัฐและกลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน มิ.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ผู้ผลิตอื่นในกลุ่มโอเปกยังดำเนินการผลิตยังเต็มกำลังตามนโยบายการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด
-นอกจากนี้ การผลิตจากกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังบริษัทผลิตน้ำมัน National Oil Corporation (NOC) ของประเทศลิเบียได้เจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง โดยกำลังการผลิตน้ำมันดิบอาจเพิ่มเป็น 700,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในสิ้นปี หากลิเบียสามารถกลับมาเปิดท่าการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ 2 ท่าได้ คือ ท่า Es-Sider ขนาด 340,000 บาร์เรลต่อวัน และท่า Ras Lanuf ขนาด 220,000 บาร์เรลต่อวันได้ อย่างไรก็ดีปริมาณการผลิตในเดือนพ.ค. ลดลงเหลือเพียง 200,000 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปทานส่วนเกินในภูมิภาคเอเชีย อย่างก็ดีอุปสงค์ยังอยู่ในระดับดีจากฤดูกาลขับขี่ในประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้ราคาน้ำมันเบนซินอาจปรับเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซียและในตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอินเดียเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดีความต้องการน้ำมันดีเซลในเอเชียยังคงอยู่ในระดับดี หลังประเทศบังคลาเทศสั่งนำเข้าน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์ผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรีย หลังกำลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี มาอยู่ที่ระดับประมาณ 1.8 - 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ยังคงไม่ได้ข้อสรุป ส่งผลให้ปริมาณการผลิตยังคงมีแนวโน้มปรับลดลงหากมีสถานการณ์ความรุงแรงเกิดขึ้นอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นใกล้ระดับ50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจโน้มน้าวให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหลุมน้ำมันที่ขุดไว้แล้ว
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการกลั่นมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องใช้น้ำมันในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำหรับสิ้นสุด ณ วันที่ 24 มิ.ย. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับลดลง 4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่หกติดต่อกัน สู่ระดับ 526.6 ล้านบาร์เรล
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 6 ก.ค. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น