ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กทม.เดินหน้ารื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬ 3-4 ก.ย.นี้


 


วันนี้ (3 ก.ย. 59) เวลา 09.30น.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการรื้อย้ายชุมชนบริเวณป้อมมหากาฬ  ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง ร่วมปฏิบัติการตามแผนการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างบริเวณป้อมมหากาฬ จำนวน 13 หลัง ระหว่างวันที่ 3-4 ก.ย. 59 โดยมี  ผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการแพทย์ สำนักงานเขตพระนคร สำนักงานกฎหมายและคดี สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ กองบังคับการกองปราบปราม กองบังคับการสืบสวน 6และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1รักษาพระองค์ ร่วมดำเนินการ ณ บริเวณป้อมมหากาฬ เขตพระนคร

 กรุงเทพมหานครจัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการรื้อย้ายชุมชนบริเวณป้อมมหากาฬ รวมจำนวน 255 คน ประกอบด้วย สำนักการโยธาพร้อมคนงานจำนวน 90 คน จัดทำบัญชีทรัพย์สินที่จะขนย้ายออกจากโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง เก็บ มัด รวบรวม ดูแล ควบคุมทรัพย์สิน แยกเป็นแต่ละรายการ เพื่อมอบให้เจ้าของทรัพย์สิน รวมทั้งจัดหาเครื่องมือ อาทิ ค้อน เลื่อย ลังเชือก ฯลฯ ในการดำเนินการ สำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธาจัดคนงาน 50 คน สำหรับการรื้อย้ายโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง จัดรถบรรทุก 6-10 ล้อ จำนวน 5 คัน เพื่อใช้ในการขนย้ายไปยังสถานที่เจ้าของต้องการ จัดอุปกรณ์ในการรื้อถอน อาทิ ค้อน ค้อนปอนด์ เลื่อย บันได รวมทั้งจัดตั้งเต็นท์ 5 หลัง  ตั้งเป็นศูนย์อำนวยการในการรื้อย้ายบริเวณที่ว่างส่วนที่เป็นสวนสาธารณะหลังป้อมมหากาฬ

 
ส่วนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและรักษาความสงบเรียบร้อยในการดำเนินการ สำนักงานเขตพระนคร จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมปฏิบัติการ 20 นาย สำนักเทศกิจ จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ 30 นาย สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์   จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย กองบังคับการปราบปราม จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1รักษาพระองค์ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดป้องกันและปราบปรามเหตุจราจล จำนวน 20 นาย ร่วมดำเนินการ

 สำหรับชุมชนที่แจ้งความประสงค์ให้กทม. เข้ารื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างขณะนี้มีจำนวน 13 หลัง ประกอบด้วย 1. บ้านเลขที่ 49/1 นางอรชร ปทุมรัตน์ 2. บ้านเลขที่ 63 นายตอน ทนุวงศ์ 3. บ้านเลขที่ 95 ด.ต.ไพบูลย์ เล็กวิไล 4. บ้านเลขที่ 99  นางอุไรวัลย์ อึ้งภากรณ์ 5. บ้านเลขที่ 107/1-3นางมุ้ยเจ็ง แซ่จิว 6. บ้านเลขที่ 127 นางชะลอ ถิรายน(นางศรีสวาท เล็กวิไล อาศัย) 7. บ้านเลขที่ 161นายทรวง เสริมสุขประเสริฐ 8. บ้านเลขที่ 167 นายเสกสรร จรรยาเลิศตระกูล 9. บ้านเลขที่ 187   นางสมจิตร์ ฉิมพสุ 10. บ้านเลขที่ 193 นางน้อย เปียสูงเนิน 11. บ้านเลขที่ 195 นางอำพร สำเภาเงิน 12. นางกี เปรมธีรวัรวัฒนชัย (บ้านไม่มีเลขที่ใกล้บ้าน 161) และ 13. นางสาววัชรา บุญศิริ (บ้านไม่มีเลขที่ใกล้บ้าน 161)

 โดยการรื้อย้ายในระยะแรก กทม. จะจัดเจ้าหน้าจำนวน 5 ชุด ชุดละ 44 คน เข้ารื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างในวันที่ 3 ก.ย.59 เวลา 09.30 น. จำนวน 5 หลัง ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 167บ้านเลขที่ 161 บ้านเลขที่ 107/1-3บ้านเลขที่ 99 บ้านเลขที่ 49/1และในวันที่ 4 ก.ย. 59 จำนวน 5 หลัง ประกอบด้วย บ้านเลขที่193บ้านเลขที่ 195 บ้านเลขที่ 127บ้านเลขที่ 95 และบ้านเลขที่ 63โดยการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวงจะดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาเป็นรายหลังเฉพาะที่ทำการรื้อย้ายเท่านั้น

 รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามหน้าที่ ตามกฎหมายและคำสั่งศาล เพราะหากกทม.ไม่ทำก็จะเป็นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยการเข้ารื้อย้ายวันนี้จะใช้มาตรการปฏิบัติอย่างนิ่มนวลจากเบาไปหนัก และจะทำการรื้อเฉพาะบ้านที่แจ้งความประสงค์ร้องขอให้กทม.ช่วยรื้อ จำนวน 13 หลังเท่านั้น ส่วนที่ยังไม่ยินยอม กทม.ก็ยังไม่เข้าดำเนินการ

 
ทั้งนี้ ตั้งแต่ 9.30 น. กทม.เริ่มรื้อบริเวณด้านหลังติดกับฝั่งท่าเรือผ่านฟ้าคลองแสนแสบซึ่งมีรั้วปิดล้อมทางเข้าชุมชน โดยเจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนรั้วออกแต่ชาวบ้านนั่งขวางทาง ทำให้ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ จนเวลา 09.45 น. เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังเพื่อประชุมวางแผนโดยเชิญตัวแทนชาวชุมชน จำนวน 14 คน ไปร่วมหารือ

 
จากนั้น เวลา 10.20 น. ได้มีการเจรจาระหว่างฝ่ายกทม.นำโดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม. กับฝ่ายชุมชนป้อมมหากาฬ โดยมี คณะกรรมการสิทธิเป็นตัวกลาง ได้ข้อสรุปว่า วันนี้ (3ก.ย.59) กทม.จะเข้ารื้อบ้านที่ยินยอมและขอให้กทม.รื้อ จำนวน 12 หลัง ส่วนอีก 1 หลัง คือ บ้านเลขที่ 99 ซึ่งเป็นบ้านไม้สักทองจะเก็บไว้เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ โดยกทม.จะขนย้ายบ้านที่รื้อออกทั้งหมดไม่ให้มีการอยู่อาศัย ซึ่งการรื้อย้ายทั้งหมดดังกล่าวจะให้เสร็จภายใน 2 วันนี้ หลังจากนี้ส่วนที่เหลือหากมีผู้ยินยอมให้รื้อ กทม.จึงจะเข้ารื้อ แต่หากไม่ยินยอมจะไม่มีการเข้ารื้อเด็ดขาด ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิเสนอให้มีการหารือแนวทางร่วมกันโดยตั้งเป็นคณะกรรมการร่วม ซึ่งจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า
 

บันทึกโดย : วันที่ : 03 ก.ย. 2559 เวลา : 13:51:50

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 6:35 pm