ปัจจัยสำคัญวันนี้
  ติดตามการประชุมกนง.วันนี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50%
  เม็ดเงินทุนต่างชาติสะสมตลาดเงินและตลาดทุนไทยต่อเนื่อง
  Window Dressing ยังคงทำงานอย่างแข็งแกร่ง
  PTT ขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ 10 บาท/หุ้น มีผลกระทบต่อ SET INDEX ราว 2.9 จุด

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 9)
  หากพิจารณา ณ ระดับราคาปิดวันที่ 30 ธ.ค. 2559 เทียบกับวานนี้ SET INDEX บวก 2.13% แต่กลุ่มรองอย่างท่องเที่ยว -4.31%/ ค้าปลีก -4.09% / กลุ่มอาหาร -1.30% เราประเมินว่ากลุ่มเหล่านี้น่าจะเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing ในช่วงโค้งสุดท้ายของ 1Q60 นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มหลักอย่าง TRUE -10.56% / PTTEP -3.41% ราคาหุ้น Underperform อย่างมีนัยยะสำคัญ
ขณะที่เม็ดเงิน ทุนต่างชาติกลับเข้าสะสมหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง YTD ขายสุทธิลดลงเหลือเพียง 4,245 ล้านบาท จากช่วงก่อนหน้าที่ขายสุทธิสะสมกว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งการประชุมกนง.วันนี้มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนคลาตัวลง ยิ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดเม็ดเงินทุนต่างชาติ
  กลยุทธ์การลงทุน “ถือพอร์ตที่สะสมมาก่อนหน้านี้ และเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงานใน 1Q60 เติบโตเด่น” เป็นทางเลือก และรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุด +/-

Daily Pick
1. สะสม BJC : ราคาปิด 46.50 บาท ราคาเหมาะสม 59.00 บาท
   a) MBKET คาดว่าหุ้น BJC จะได้อานิสงค์จาก Window Dressing สิ้นสุด 1Q60 เนื่องจากเป็นหุ้นที่สถาบันถือครองเป็นจำนวนมาก และ YTD หุ้น BJC -7.5% เคลื่อนไหว Underperform SET Index +2.2% และ SET COMMERCE -4.2%
  b) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ 1Q60 จะเติบโตสูง yoy และขยายตัว qoq จากภาคบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะดีขึ้น qoq เนื่องจาก 4Q59 BIGC มีการปรับกลยุทธ์และล้างสต็อกสินค้าจึงทำให้ GPM ของ BIGC ลดลงต่ำผิดปกติ
   c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรปี 2560 ที่คาดว่าจะเติบโตถึง +115% yoy เป็น 6,753 ล้านบาท จากการรวมงบ BIGC เต็มปี, การขยายกำลังการผลิตขวดแก้ว และ Synergy ด้านต้นทุน ส่งผลให้เกิดแรงผนึกและประหยัดต้นทุนด้าน Logistic, IT และการเงิน
  d) ซื้อขายที่ระดับ PEG2560 เพียง 0.25 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ 1.6 เท่า ให้ BJC เป็น Top pick ของกลุ่มค้าปลีก

2. สะสม BEM : ราคาปิด 7.60 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
   a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น BEM จะตอบรับเชิงบวก หลังการประชุมครม.วานนี้มีมติอนุมัติให้ BEM เดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมออกไปอีก 20 ปี เป็นสิ้นสุดปี 2592 ซึ่งเป็น Upside Risk ต่อราคาเป้าหมายของเราเพิ่มอีกราว 1.00 บาท และยังไม่ได้ถูกรวมไว้ในประมาณการของ Consensus
  b) คาดกำไรสุทธิ 1Q60 เติบโต yoy จากการรับรู้รายได้โครงการทางด่วนศรีรีช และค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเริ่มรับรุ้รายได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.2559 ที่ผ่านมา และผลประโยชน์จากการ Refinance ใน 3Q59 จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลงได้ราว 20-30% yoy
  c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจเดินรถไฟฟ้าซึ่งจะมีเส้นทางเกิดใหม่อีก เป็นจำนวนมากในอนาคต และคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2560 จะเติบโต +33% yoy เป็น 3,468 ล้านบาท ขณะที่ Valuation ซื้อขายที่ PER2560 ระดับ 33.1 เท่า ถูกกว่า BTS ที่ระดับ PER2560 สูงถึง 52.5 เท่า