ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน วานที่ผ่านมา SET แกว่ง Sideway Down (19/10/60)


 Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่ง Sideway Down  โดยมีแรงขายหลักในหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย PTT, ADVANC, SCB, CPN, AOT กดดันตลาดปิดสิ้นวัน ที่ 1,707.53 จุด (-16.94 จุด) ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เส้นค่าเฉลี่ย EMA 10 วันพอดี ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากวันก่อนหน้าที่ 6.3 หมื่นล้านบาท 
  นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกันอีก 1670 ลบ. และ Short สุทธิ SET50  Index Future ราว  10,443 สัญญา

Investment theme
  ตลาดปรับตัวลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ทำอย่างไรต่อดี : วานนี้ SET ปรับฐานลงทดสอบที่บริเวณ 1707 จุด ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันพอดี โดยเริ่มเห็นแรงขายของต่างชาติที่ออกมาทั้งภูมิภาค โดยคาดอาจมาจากประเด็นค่าเงินดอลล่าร์ที่เริ่มแข็งค่าขึ้น เก็งประธาน FED คนใหม่ รวมถึงความคืบหน้านโยบายภาษีUS ซึ่งอาจกระตุ้น Fund Flow ไหลกลับสั้นได้ ซึ่งแรงขายดังกล่าวอาจกดดัน SET ช่วงสั้น ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย หรือกลุ่มเล่นรอบ ยังคงใช้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันเป็นจุดสำคัญ โดยหากหลุดแนะทยอยลดความเสี่ยงในหุ้นลงราว 30% เพื่อมีเงินสดรอโอกาสการซื้อกลับในช่วงถัดไป โดยประเมินหากหลุด 1707 มองแนวรับถัดไปที่ 1700 และ 1680 จุด แต่อย่างไรก็ดีการปรับฐานรอบนี้ คาดจะช่วยให้ SET ลดภาวะ Overbought ลงได้ โดยภาพใหญ่ของ SET เรายังคงประเมินว่ายังอยู่ในกรอบขาขึ้น จากทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น และเม็ดเงิน LTF ช่วงปลายปีจะเป็นตัวพยุงที่สำคัญ หนุนโอกาสที่ SET จะฟื้นได้ในช่วงถัดไป
  Investment theme: ยังคงใช้เส้น 10 วันที่ 1707 เป็นจุดรับสำคัญ โดยหากหลุด อาจลดน้ำหนักการลงทุนลงราว 30% ในกลุ่มที่ Upside จำกัด เพื่อถือเงินสดรอโอกาสการซื้อกลับในช่วงถัดไป

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา  ดัชนีค่าระวางเรือวานนี้ +14 จุด สู่ 1566 จุด (บวก 11 วันติดต่อกัน) กระตุ้นแรงเก็งกลุ่มเดินเรือ / ตัวเลขยอดเริ่มสร้างบ้าน US กย. -4.7%MoM มากกว่าคาดที่ -0.4%MoM / Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 58.15 เหรียญ/บาร์เรล ขานรับสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์ลดลง -5.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -3.85 ล้านบาร์เรล / DTAC กำไร 3Q60 601 ล้านบาท ต่ำคาด -1.9% / TCAP กำไร 1788 ล้านบาท ดีกว่าคาด +4.6%
  GFPT @22.00 คาดกำไร 3Q60 สูงสุดในรอบ 4 ปี
  กลุ่มยานยนต์ (Neutral): ตัวเลขเดือน กย. พลิกมาดีขึ้นมาก

Stock pick : GFPT
GFPT: ทยอยสะสม 22.00 บาท
  คาดกำไร 3Q60 สูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ระดับ 543 ล้านบาท เติบโต +10% QoQ, +10% YoY จากไก่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น +13%QoQ, +6%YoY และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อยู่ในระดับต่ำ หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 17.2% จาก 16.3 ใน 2Q60
ไก่ส่งออกยังมีแนวโน้มสดใสโดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตรองรับการส่งออก โดยโรงงานไก่ปรุงสุกแห่งใหม่ของ McKey ซึ่งจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในต้นปีหน้า มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 2,000-2,500 ตัน/เดือน เป็น 4,000-5,000 ตัน/เดือน

GFPT: ทยอยสะสม 22.00 บาท
  คาดกำไร 3Q60 สูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ระดับ 543 ล้านบาท เติบโต +10% QoQ, +10% YoY จากไก่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น +13%QoQ, +6%YoY และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อยู่ในระดับต่ำ หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 17.2% จาก 16.3 ใน 2Q60
ไก่ส่งออกยังมีแนวโน้มสดใสโดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตรองรับการส่งออก โดยโรงงานไก่ปรุงสุกแห่งใหม่ของ McKey ซึ่งจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในต้นปีหน้า มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 2,000-2,500 ตัน/เดือน เป็น 4,000-5,000 ตัน/เดือน

Technical View
  ที่แนวรับ 1700 ควรเริ่มหยุดลง:  ดัชนีอ่อนลงอย่างรุนแรงในช่วงบ่าย ทำให้ขณะนี้ดัชนีปรับตัวลงปิด Gap ที่เปิดไว้เมื่อวันที่ 11 ต.ค. และทำให้ Slow Stochastic ในกราฟ 120 นาทีปรับตัวลงเข้าเขต Oversold เรามองว่าระยะสั้นดัชนีมี Downside ด้านล่างถึงบริเวณ 1700 หากปรับตัวลงและเริ่มหยุดลงที่แนวรับดังกล่าว มองว่า ขาขึ้นระยะกลางยังคงไม่เสียไป ส่วนแนวต้านมองที่ 1715, 1720 ตามลำดับ  กลยุทธ์การลงุทน (1) มีหุ้น: ลดพอร์ตระยะสั้น และดูแนวโน้มกรหยุดลงที่แนวรับ 1700 (2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มและซื้อกลับที่แนวรับ 1700
  แนวรับ : 1700, 1695  แนวต้าน : 1715, 1720

Eyes on 
  ปัจจัยต่างประเทศ :  Trump อยู่ระหว่างการการพิจารณาหาประธาน FED คนต่อไป / สัปดาห์นี้จับตาการเลือกตั้งจีน / วันนี้จีนรายงาน GDP  ไตรมาส 3 คาด 6.8% / ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง  
  ปัจจัยในประเทศ : การรายงานงบ กลุ่ม BANK ในสัปดาห์นี้ 

หุ้นเทคนิค:
  BEC (B 18.30, Tp 19.00//19.80, Cut 18.00)
  TMB (B 2.54, Tp 2.70, Cut 2.48)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ต.ค. 2560 เวลา : 10:03:54

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 3:10 am