คำแนะนำ

  เสี่ยงซื้อในบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,320  1,313  1,306
แนวต้าน  1,348  1,356  1,365

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น  2.79  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์จากความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงอยู่  ถึงแม้ทีมบริหารของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐและจีนจะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้  นอกจากนี้ดัชนีดาวโจนส์ได้ลดช่วงบวกลง  ส่วนสกุลเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการรายงานของวอชิงตัน โพสต์ที่ระบุว่า FBI ได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานของ ทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์และยึดเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินให้กับนักแสดงสาวคนหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีความสัมพันธ์กับปธน.ทรัมป์  ประกอบกับสกุลเงินยูโรแข็งค่าหลังนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นในช่วงต้นปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะการเงินในยูโรโซนปัจจัยดังกล่าวส่งผลหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม   สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผย ดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)  รวมถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆซึ่งจะมีผลชี้นำทิศทางราคาทองคำให้เคลื่อนไหวผันผวนได้

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากแรงขายทำกำไรสลับออกมาไม่มากเมื่อราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,320ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นหากการดีดตัวกลับไม่มาก มีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  พิจารณาบริเวณ 1,320-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ แต่หากหลุดลงมาการเปิดสถานะซื้อจำเป็นต้องชะลอออกไปก่อนหากหลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์