ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index แกว่งตัว Sideways (01/08/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Short-term Sell into Strength

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways พักฐานตามคาดโดยระหว่างวันมีจังหวะดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,700 จุดนำโดยกลุ่มธนาคารและพลังงาน ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาในแดนลบและปิดทรงตัว ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิ 948 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อต่อเนื่องอีก 1.8 พันลบ. (และยัง Net Long ใน Index Futures อีกกว่า 5 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways Up หลังมีข่าวว่าสหรัฐฯ-จีนกำลังเริ่มเจรจารอบใหม่เพื่อยุติความขัดแย้งทางการค้า อย่างไรก็ตามเรายังมองว่ากรอบการบวกของดัชนีในระยะนี้ยังไม่กว้างนักเนื่องจากต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสำคัญทั้ง FED และ BOE ในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมาหนาแน่นขึ้น ประกอบกับ SET Index ปรับตัวขึ้นแรงและเร็ว +6.7% ในเดือน ก.ค. ทำให้ยังมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น เราจึงยังเน้นเก็งกำไร/ลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการโดดเด่น และแบ่งขายทำกำไรลดพอร์ดระยะสั้นบางส่วนในจังหวะที่ตลาดดีดขึ้น 
 กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง //ขายทำกำไรระยะสั้นบางส่วนช่วงตลาดดีดขึ้น
  หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC

  Fund Flow วานนี้กระแเสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$42ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$121ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$55ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังมีกระแสข่าวสหรัฐและจีนจะเจรจาทางการค้าร่วมกัน

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> THMUI <<
  แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท
  คาดกำไรสุทธิ 2Q18 โดดเด่นมาก +249% Q-Q, +551% Y-Y อยู่ที่ 14 ลบ. จากการรับรู้งานวางท่อปะปาที่ภูเก็ตมูลค่า 165 ลบ. และงานขายลวดสลิงที่เริ่มฟื้นตัว 
  แนวโน้ม 2H18 จะดีต่อเนื่อง เพราะเป็น High Season ของงานขายลวดสลิง และคาดว่าจะได้งานวางท่อปะปาในเฟส 3-4 เราคาดกำไรทั้งปี 53 ลบ. +147% Y-Y
  ราคาหุ้นตอนนนี้ซื้อขายบน PE2018-19 เพียง 9-11 เท่า ถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ 16 เท่า 

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (1) มองตลาดพักฐานในเดือน ส.ค. เพราะแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ชะลอการขายหลังจากขายหนักติดต่อกัน 10 เดือนเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหลักๆในโลกโดยเฉพาะสหรัฐ-จีนว่าถูกกระทบจากกำแพงภาษีที่เริ่มมีผล 6 ก.ค. หรือไม่ ขณะที่ความกังวลของตลาดต่อการขึ้นดอกเบี้ยเฟดในเดือนหน้าและกังวลต่อสภาพคล่องในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง จะเป็นลบต่อบรรยากาศการลงทุน การเลือกหุ้นในเดือนนี้จึงเน้นหุ้นที่ราคากำลังพักฐาน หรือพึ่งพากำลังซื้อในประเทศ หรือ laggard ซึ่งได้แก่ BJC, BKD, INTUCH, RS, SC 
  (+) DELTA Delta Electronics International Singapore (บริษัทย่อยของ Delta Taiwan) ประกาศขอซื้อหุ้นทั้งหมด (Tender Offer) ของ Delta Thailand อีก 79.07% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 20.93% ในราคาหุ้นละ 71 บาท คาดว่ากลุ่มเจ้าของเดิมที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Delta Thailand ต้องการ Exit ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่หุ้น DELTA จะถูก Delist หลังทำ Tender แล้วเสร็จ ซึ่งอาจต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือน
  (+) ADVANC จะประกาศงบวันที่ 2 ส.ค. นี้ เราคาดกำไรปกติ 2Q18 ยังโตดี +2% Q-Q, +15.5% Y-Y เป็น 8,319 ลบ. เราคาดการแข่งขันชะลอความรุนแรง ทำให้ ARPU เริ่มขยับขึ้น และยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและค่าการตลาดได้ดี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 220 บาท รวมถึงแนะนำซื้อ INTUCH ราคาเป้าหมาย 67.5 บาท
  (+) HMPRO กำไรสุทธิ 2Q18 ออกมาดีตามคาด 1,313 ลบ. (+5.2% Q-Q, +16.1% Y-Y) SSSG +3% และมีเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับขึ้น แนวโน้ม 3Q18 คาดทรงตัว Q-Q แม้เป็น Low season เพราะมีจัดงาน Hmpro Fair และคาดกำไรจะทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 จาก High Season และเปิดสาขาใหม่ รวมถึงการจัดงาน Expo คงราคาเป้าหมาย 15.5 บาท แนะนำซื้ออ่อนตัว ส่วนหุ้นในกลุ่มที่คาดกำไรจะออกมาดีเหมือนกันคือ GLOBAL (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 19 บาท) และ BJC (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 61 บาท) ขณะที่ CPALL อาจต้องรอลุ้นกำไรของ MAKRO ที่จะประกาศวันที่ 8 ส.ค. นี้ก่อน 
  (-) BIG ด้วยภาพ Product Mix ที่เปลี่ยนไป และการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลง ทำให้ผลประกอบการ 2Q18 มีแนวโน้มออกมาน่าผิดหวัง เราคาดมีกำไรสุทธิ 122 ลบ. -42% Q-Q, -21% Y-Y และด้วยสาเหตุเดียวกัน ทำให้เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2018-2020 ลงเฉลี่ยปีละ 16% และปรับลด PE Multiplier ลงจาก 20 เท่าเหลือ 13 เท่า ตามอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ลดลง ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปี 2018 ลดลงจาก 4.30 บาท เหลือ 2.50 บาท ในเชิงของคำแนะนำ เราปรับลดจากซื้อเป็นถือ จนกว่าจะเห็นอุตสาหกรรมกล้อง Mirrorless กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง   
  (+) BKD การปรับขึ้นอย่างโดดเด่น THMUI วานนี้ มาจากคาดการณ์กำไร 2Q18 ที่จะออกมาสดใสอย่างมาก เราคาด +249% Q-Q, +551% Y-Y อยู่ที่ 14 ลบ. ส่วนสำคัญมาจากการรับรู้งานวางท่อปะปาที่ภูเก็ต ซึ่งน่าจะยืนยันได้ว่ามีการส่งมอบงานแล้ว และใกล้ COD ได้ ทำให้ดีลของ BKD ใกล้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน (ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ BKD 0.80 บาท/หุ้น) นอกจากเราแนะนำซื้อ THMUI ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท แล้ว เรายังแนะนำซื้อ BKD ราคาเป้าหมาย 4.50 บาทด้วย

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

..

ไทยอัตราเงินเฟ้อ (..)

สหรัฐฯประชุม FOMC ตลาดคาดคงดอกเบี้ย 2%

ยูโรโซน: PMI ภาคการผลิต (..)

..

อังกฤษประชุม BOE

..

สหรัฐฯตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (..), ดุลการค้า (มิ..)

..

อินโดนีเซีย: 2Q18 GDP ตลาดคาด +5.2% Y-Y

  (+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นจากหุ้นในกลุ่ม Healthcare หลังบริษัท Pfizer ประกาศผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ ความคาดหวังจากการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนเพื่อยุติสงครามทางการค้าก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
  (+) ตลาดยุโรปปรับตัวขึ้นจากข่าวการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนเพื่อหาทางยุติสงครามทางการค้า
  (+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น จากทั้งเรื่องการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน และการหันกลับมาสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้นของรัฐบาลจีน
  (+) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

  (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 1.37 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปธ.ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะเจรจากับทางอิหร่าน แต่อิหร่านต้องไม่ตั้งเงื่อนไขใดๆก่อนเจรจาทั้งสิ้น
  (-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ ปรับตัวลง 0.31 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 6.42 ดอลลาร์/บาร์เรล 
  () ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1233.60 ดอลลาร์/ออนซ์


บันทึกโดย : วันที่ : 01 ส.ค. 2561 เวลา : 09:46:09

26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 7:34 am