|
|
|
|
|
|
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน(18 พ.ค.2565) ร่วงลงทุกตลาด โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงหนักต่ำสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 ปิดที่ 31,490.07 จุด ร่วงลง 1,164.52 จุด หรือลดลง 3.57%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,923.68 จุด ร่วง 165.17 จุด หรือลดลง 4.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,418.15 จุด ร่วงลง 566.37 จุด หรือลดลง 4.73%
เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐจะเริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทค้าปลีก โดยบริษัททาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2565 ลดลงสู่ระดับ 2.19 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.07 ดอลลาร์ เนื่องจากผลกระทบปัญหาห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าขนส่งที่สูงขึ้น ขณะที่บริษัทยังต้องปรับลดราคาสินค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันกับบรรดาคู่แข่งในตลาดได้ ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นทาร์เก็ตจนปิดตลาดร่วงลง 24.93% ส่งผลให้ทาร์เก็ตสูญเสียมูลค่าตลาดราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แบล็คมันเดย์เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2530 นอกจากนี้ยังทำให้หุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ ร่วงลงตาม โดยหุ้นโฮมดีโปท์ ร่วงลง 5.24% หุ้นเบสท์ บาย ดิ่งลง 10.52% หุ้นวอลมาร์ท ร่วงลง 6.79% หุ้นเมซีส์ ร่วงลง 10.70% หุ้นดอลลาร์ ทรี ทรุดตัวลง 14.42% และอีกปัจจัยที่กระทบตลาด คือ กรณีนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ |
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
19 พ.ค. 2565 เวลา : 09:54:26
|
|
|
|
|
.jpg)
ข่าวเด่น