ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (26 ก.ย.66) ร่วงหนัก 388 จุด กังวลสหรัฐถูกชัตดาวน์-เศรษฐกิจชะลอตัวเฟดคงดอกเบี้ยสูง


 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,618.88 จุด ลดลง 388.00 จุด หรือ -1.14%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,273.53 จุด ลดลง 63.91 จุด หรือ -1.47% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,063.61 จุด ลดลง 207.71 จุด หรือ -1.57% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะถูกปิดการดำเนินงานหรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค. หากสภาคองเกรสยังคงไม่มีความคืบหน้าในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าหากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกชัตดาวน์ ก็จะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ และจะสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของสถาบันและการแบ่งขั้วทางการเมืองที่รุนแรงในสหรัฐ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อการกำหนดนโยบายด้านการคลัง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานะการคลังของสหรัฐอ่อนแอลงอย่างมาก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัว รวมทั้งแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาด และ

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ลดลง 8.7% สู่ระดับ 675,000 ยูนิตในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 695,000 ยูนิต จากระดับ 739,000 ยูนิตในเดือนก.ค. โดยยอดขายบ้านใหม่ถูกกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 103.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 105.5 จากระดับ 108.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะถูกชัตดาวน์

นักลงทุนติดตามการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยนายพาวเวลจะจัดการประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ร่วมกับบรรดานักวิชาการในวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ย.นี้ และจะตอบคำถามจากผู้ที่เข้าร่วมการประชุม

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ก.ย. 2566 เวลา : 11:00:37

09-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 9, 2024, 1:19 am