หลังจากที่ประเทศจีน ผ่อนคลายมาตรการ Zero-Covid และประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ก็ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้หลั่งไหลเข้ามาในไทยจำนวนมาก เพราะไทยติดอันดับ 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางที่ชาวจีนนิยมมาท่องเที่ยวอย่างยาวนาน ตั้งแต่ช่วง Pre-Covid อีกทั้งยังได้ปัจจัยสนับสนุนอย่างรัฐบาลจีนได้ให้ไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศนำร่อง ที่อนุญาตให้เดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปี 2023 SCB EIC มีการคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางมายังไทยราว 4.8 ล้านคน (จากภาคการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตขึ้นในปีนี้ซึ่งมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมแตะ 30 ล้านคน)
ซึ่งปฏิเสธข้อเท็จจริงไม่ได้ว่า นักท่องเที่ยวจีนคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับภาคการท่องเที่ยวไทยมาตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด และภาคการท่องเที่ยวก็เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน เมื่อนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาแล้ว ก็เป็นโอกาสอันดีให้กับภาคธุรกิจได้กลับมาฟื้นตัว ฉะนั้นการศึกษาเทรนด์ของผู้บริโภคชาวจีน จะยิ่งเป็นแต้มต่อให้กับเหล่าผู้ประกอบการได้ออกสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์กับนักท่องเที่ยวจากจีนมากยิ่งขึ้น
3 เทรนด์ผู้บริโภคของคนจีนปี 2023 มีอะไรบ้าง?
1.เทรนด์ด้านสุขภาพ
หลังจากเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ผู้คนบนโลกมีพฤติกรรมด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป ยิ่งกับเฉพาะชาวจีนที่เผชิญกับมาตรการ Zero-Covid อย่างเข้มงวด และใกล้ชิดกับไวรัสชนิดนี้อย่างมาก ทำให้ชาวจีนส่วนใหญ่แทบทุกวัยมี Health Conscious ที่เพิ่มสูงขึ้น ฉะนั้นพวกเขาจะมีความสนใจผลิตภัณฑ์และการรับบริการต่างๆที่มีความเกี่ยวโยงกับสุขภาพมากขึ้น โดยที่ผู้ประกอบการสามารถจับเทรนด์ตรงนี้เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าของฝากได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยในไทยและซื้อของฝากกลับไปยังประเทศตนมาก การผลิตสินค้าโดยการเพิ่มคุณสมบัติด้านสุขภาพเข้าไป จะทำให้มีความสามารถในการทำกำไรได้มากขึ้น หรือการให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยของชาวจีน หากผู้ประกอบการเพิ่มมาตรฐานความสะอาดในสินค้า อาหาร หรือความสะอาดของร้านก็จะเป็นแต้มต่ออีกเช่นกัน ส่วนด้านการบริการอย่างการทำ สปาและการนวดที่เป็นที่นิยม ก็อาจจะเป็นการออกโปรแกรมที่สร้างเสริมสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ รูปแบบการท่องเที่ยวของชาวจีนก็ยังเปลี่ยนแปลงไปยึดโยงกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ทั้งนิยมการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติมากขึ้น อย่างการไปแคมปิ้งก็ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงปิดประเทศจนถึงตอนนี้ การเตรียมรองรับการให้บริการกับนักท่องเที่ยวจีนตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติก็เป็นโอกาสที่ดีเช่นกัน
2.เทรนด์ด้านความบันเทิง
จวี จิ้งอี ดาราชื่อดังชาวจีนใส่ชุดนักเรียนไทย
ชาวจีนมีความยึดโยงกับสื่อบันเทิง และสื่อโซเชี่ยลมีเดียอย่างมาก อย่างแอปพลิเคชัน Tiktok (ที่จีนเรียก Douyin) ก็เป็นแอปจากทางจีนที่ได้รับความนิยมในทุกเพศทุกวัย มี Content Creators ในหลากหลายด้านทั้งแฟชั่น ดารา รวมถึงการท่องเที่ยว และผู้เสพสื่อจากแอปดังกล่าวมากมาย การเผยแพร่ Soft Power ของไทยให้กับจีนก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สร้างโอกาสให้กับคนไทยได้ อย่างเช่นชุดนักเรียนของไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวจีนหลายคนใส่ออกมาถ่ายรูปทำคอนเท้นต์ในประเทศไทย และอัพเดทลงสื่อโซเชี่ยลมีเดียของตน ซึ่งเป็นการแพร่กระจายเทรนด์แฟชั่นให้แผ่ขยายไปยังกลุ่มคนจีนอีกจำนวนมาก ทำให้มียอดการซื้อชุดนักเรียนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาและการฝากซื้อกลับไปยังประเทศก็มีให้เห็นเช่นกัน หรือกระแสของซีรี่ย์ไทยที่คนจีนนิยม หากผู้ประการสามารถจับจุด และออกสินค้าที่เกี่ยวโยงกับส่วนประกอบในซีรี่ย์มาตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจีนได้ ก็สามารถสร้างโอกาสที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติได้มากเช่นกัน เช่น ฉากของอาหารเครื่องดื่มในเรื่องที่เป็น Soft Power ให้กับนักท่องเที่ยวจีนได้ เป็นต้น
3.เทรนด์ความสะดวกสบาย
จีนเป็นประเทศมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงมาก ฉะนั้นพวกเขาจะมีความคุ้นชินกับสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาช่วยทุ่นแรงต่างๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผนวกกับช่วงการอยู่กับสถานการณ์ Zero-Covid ที่มีแต่จะต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ชาวจีนมีประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์และบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับพวกเขามาโดยตลอด ฉะนั้นแม้จะสามารถออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้แล้ว การได้รับความสะดวกสบายจึงยังเป็นความต้องการสำหรับพวกเขาอยู่ หากผู้ประกอบการสามารถสร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เช่นบริการที่เกี่ยวกับการสื่อสารภาษาจีน รถรับส่ง หรือสินค้าและบริการอะไรก็แล้วแต่ที่ช่วยทุ่นแรงและสร้างความสบายใจให้กับนักท่องเที่ยวจีน ก็มีแนวโน้มที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จอย่างสูงเช่นกัน
และทั้งหมดนี้ ก็คือเทรนด์ผู้บริโภคชาวจีนปี 2023 ซึ่งหากศึกษาข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเห็นได้ว่าในช่วงก่อนเกิดไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ปี 2018 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามายังไทยจำนวน 10.6 ล้านคน มีเม็ดเงินสะพัด 5.22 แสนล้านบาท ส่วนปี 2019 มีนักท่องเที่ยวจีน 11.1 ล้านคน มีเม็ดเงินสะพัด 5.31 แสนล้านบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนนั้นกินสัดส่วน 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เข้ามายังไทยเลยทีเดียว และยังถือว่าเป็นชาติที่ใช้เงินเที่ยวไทยมากที่สุดอีกด้วย ฉะนั้นการ จับเทรนด์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กลับเข้ามายังไทยได้ตรงจุด และออกผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์กับพวกเขา ก็จะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กลับมายืนได้อย่างมั่นคงแน่นอน
ข่าวเด่น