Scoop : อัพเดตเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐ ทองคำลด ดอลลาร์แข็งค่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกแล้ว?


 

จำกันได้หรือไม่ว่า ในช่วงต้นเดือนนี้ สหรัฐอเมริกามีประเด็นที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง ของ Dept-Ceiling หรือเพดานหนี้สหรัฐที่ดำเนินมาถึงทางตันแล้ว โดยหากรัฐสภาไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล จะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับหายนะ สร้างความกังวลให้กับทางโลกของเศรษฐกิจการลงทุน เพราะถือเป็นประเด็นเรื่องของการเมืองระหว่างฝ่ายของรัฐบาล(พรรคเดโมแครต) และฝ่ายรัฐสภา(พรรครีพับลิกัน) ความกังวลดังกล่าวทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการปรับตัวอ่อนค่าลง และมีคนแห่เข้าไปซื้อทองคำเก็บไว้เพื่อประกันความมั่นคงทางการเงินของตัวเองเอาไว้ในทรัพย์สินที่ปลอดภัย

ซึ่งในตอนนี้การเจรจาระหว่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดี จากฝั่งของพรรคเดโมแครต กับ เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากฝั่งของพรรครีพับลิกัน แม้ยังไม่ได้มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีสัญญาณว่าการเจรจาเรื่องนี้ใกล้บรรลุข้อตกลงสำหรับทั้งสองฝ่ายแล้ว  เมื่อเหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย บรรยากาศในโลกของการลงทุนก็ดีขึ้น 
 

 
 
และตามกลไกทางธรรมชาติ ก็ได้ทำให้ทองคำมีการปรับมูลค่าลดต่ำลง จากในภาพ ที่ขึ้นไปที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐตามความกังวลของข่าว ก็ได้ปรับตัวลดต่ำลงประมาณ 1,974 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจถึงขั้นต้องเก็บพักเงินเอาไว้นั้นลดต่ำลงไป สอดคล้องกับในฝั่งของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อความกังวลเรื่องเพดานหนี้สหรัฐหายไป ทำให้เงินทุนไหลกลับเข้ามา ค่าเงินดอลลาร์จึงมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้น

ส่วนในเรื่องของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ที่หลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 10 ไปแล้ว ทางเจอโรม พาวเวล ประธานของ Fed ก็มีการส่งสัญญาณว่าจะพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปว่ายังจำเป็นหรือไม่ ที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐต่อ ซึ่งถ้อยแถลงนี้จัดว่าเป็นใจความที่แตกต่างกับครั้งก่อนๆ และมีทีท่าว่าทาง Fed จะพิจารณาในการหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดลงทุนมีการคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากมองว่า Fed ก็มีความกังวลจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการล่มสลายของธนาคารในสหรัฐจากการแบกรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่ไหวเช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีการเติบโตขึ้นจากสัญญาณดังกล่าว แต่ต่อมา ทาง Bank of America ก็ได้ออกมาเตือนนักลงทุนว่า ตลาดอาจคาดการณ์การกระทำของ Fed ต่ำไป เพราะการลดระดับอัตราเงินเฟ้อให้เหลือ 2% ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของ Fed ซึ่งตอนนี้ค่า CPI ที่เป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อล่าสุดยังอยู่ที่ 4.9% และตัวของ Sticky Inflation หรือเงินเฟ้อที่คงค้างอยู่นั้น ยังอยู่ที่ระดับ 5.5% ทำให้ทาง Bank of America มีการคาดการณ์ว่า การขึ้นดอเบี้ยครั้งต่อไปของ Fed อาจจะยังไม่ใช่การขึ้นครังสุดท้ายเสียด้วยซ้ำ

 
และจากสัญญาณเตือนดังกล่าว ทำให้ตัวของพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ก็มีการดีดตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามข่าวลือการขึ้นดอกเบี้ยของทาง Fed ผิดจากช่วงก่อนที่มีการลดระดับลงมา เนื่องจากตลาดส่วนมากมีการคาดการณ์กันว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายแล้วในก่อนหน้านี้

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงระยะเวลานี้ จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด เพราะอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งอาจจะมีเหตุการณ์สวนทางที่ผิดแปลกจากการคาดการณ์เกิดขึ้นอีกก็เป็นได้ ฉะนั้นการตามติดและปรับแผนการลงทุนที่ยืดหยุ่นพร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนจึงดูจะเป็นสิ่งที่สมควรทำที่สุดในระยะเวลานี้


 

LastUpdate 23/05/2566 18:00:38 โดย : Admin
กลับหน้าข่าวเด่น
22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 12:53 am