.jpg)
ตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เบาบางลงไป ภาคการท่องเที่ยว ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่เศรษฐกิจไทยก็เริ่มทยอยกลับขึ้นมาเป็นปกติทั้งผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนที่เกี่ยวกับภาคบริการในประเทศได้ลืมตาอ้าปากกันอีกครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไทยอย่างนักท่องเที่ยวจีน เมื่อรัฐบาลจีนได้ยกเลิกนโยบายการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือ Zero-COVID ที่มีมาเกือบ 3 ปี และได้ประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา การผ่อนคลายนี้เองทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่การเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยครั้งนี้ก็มาพร้อมกับธุรกิจจีนสีเทาที่สร้างปัญหาหลายๆด้านให้กับไทยเช่นกัน ทำให้ไทยมีการเปลี่ยนระบบใหม่การออกวีซ่าให้กับคนจีนที่รัดกุมขึ้นเมื่อช่วง มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นปัจจัยกดดันให้เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยได้ยากขึ้น แต่ล่าสุดปัญหานี้ก็ได้คลี่คลายลงแล้ว จากมาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนที่รัฐบาลประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 - ก.พ. 2567
ประเด็นของธุรกิจจีนเทา หรือแก๊งอาชญากรรมจีนที่เข้ามาทำธุรกิจมืดในไทย เป็นปัญหาความมั่นคงของไทยที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ประเทศไทยจำเป็นออกวีซ่าให้กับคนจีนที่รัดกุมมากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนระบบใหม่ อย่างการขอวีซ่าแบบกรุ๊ปทัวร์ จากที่ใช้เวลาขอ 3 - 5 วัน เปลี่ยนไปใช้เวลาถึง 15 วัน รวมไปถึงคนจีนที่มีวีซ่าแต่งงานกับคนไทยก็ยังมีการตรวจสอบจากทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)ไทยอย่างรัดกุมก่อนจะสามารถเข้าไทยได้ เป้าหมายของทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่คาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามายังไทยทั้งสิ้น 5 ล้านคนนั้นจึงมีโอกาสที่จะไม่เป็นไปตามยอดที่ตั้งเป้าเอาไว้ (เพราะ 5 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยทั้งสิ้นเพียง 1 ล้านคน หมายความว่าในอีก 7 เดือนของปีนี้ต้องทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยอีก 4 ล้านคน) ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าไทยจึงได้รับผลกระทบไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
แต่ล่าสุดทางรัฐบาลไทย ได้ออกมาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน หรือก็คือบุคคลสัญชาติจีนสามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้โดยไม่ต้องทำวีซ่าเข้าไทยเหมือนแต่ก่อน เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา จนถึงเดือน ก.พ. 2567 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้เข้ามายังประเทศไทยกันมากขึ้น ส่วนในประเด็นขัดแย้งอย่างปัญหาจีนเทาที่ก่อนหน้านี้ ไทยได้เปลี่ยนระบบการออกวีซ่าให้คนจีนยากขึ้นนั้น ในตอนนี้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันร่วมกับบริษัทเอกชนเพื่อใช้ลงทะเบียนแจ้งที่พักของชาวต่างชาติผ่านทางสมาร์ทโฟน รวมทั้งยังมีระบบตรวจสอบข้อมูลด้วย AI อีกทั้งทางด้านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เตรียมพร้อมการดูแลตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาตามด่านตรวจทั่วประเทศอย่างละเอียดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ได้รับฟรีวีซ่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
ซึ่งทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. คาดว่ามาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 - 700,000 คน รวมแล้วทั้งปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยทั้งสิ้น 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ 5 ล้านคน และในช่วง 5 เดือนที่ไทยได้ออกฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนนี้ ตรงกับช่วง High Season ของไทย และเดือน ก.พ. 2567 ที่อยู่ในกรอบระยะเวลาฟรีวีซ่า ก็ตรงช่วงเทศกาลตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออกไปเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยครั้งใหญ่อีกด้วย การออกฟรีวีซ่าจีนครั้งนี้ จึงเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจีน ที่มีกำลังซื้อสูงมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ และภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา แต่ก็ยังมีปัจจัยกดดันล่าสุดอย่างกระแสความไม่เชื่อมั่นถึงความปลอดภัยในประเทศไทย ที่เป็นประเด็นร้อนของทางโซเชียลมีเดียที่จีนขณะนี้ จากกรณีการกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในไทย ที่มีชาวจีน 1 คนเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นความสูญเสียที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าทางรัฐบาลจะออกมาตรการการรักษาความปลอดภัย-การพกอาวุธอย่างไรเพื่อเรียกความเชื่อมั่นและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนกลับมาเพื่อสอดรับกับมาตรการฟรีวีซ่าที่กำลังเปิดใช้ในตอนนี้
ข่าวเด่น