Scoop : เทรนด์การตลาด ปี 2024 มีอะไรบ้าง เจ้าของธุรกิจปรับตัวอย่างไรดี


สำหรับในปี 2024 เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแบบ Soft Landing ทำให้ฝั่งธุรกิจยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น และแนวโน้มรายได้ที่ลดลง ฉะนั้นการแข่งขันเพื่อช่วงชิงลูกค้าด้วยวิธีการต่างๆ จะมีความดุเดือดมากขึ้นในปี 2024 นี้ เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะ SME จึงควรหาอาวุธ และเทรนนิ่งธุรกิจตัวเองให้ดีสำหรับการต่อสู้กับคู่แข่งในตลาด เพื่อหาพื้นที่ลงหลักปักฐานในตลาดให้ได้ ซึ่ง 1 ในอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การดำเนินการทางการตลาดที่เวิร์คสำหรับช่วงระยะเวลาปัจจุบันนั่นเอง
 
เทรนด์การตลาดปี 2024 มีอะไรบ้าง
 
1. พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป

ทางสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย รายงานว่า เรื่องของเทรนด์สุขภาพเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ (ซึ่งมีผลพัฒนามาจากการเกิดไวรัส  Covid-19 ระบาด การกลับมาสนใจตัวตนของตัวเองมากขึ้น หรือ Self love และสังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน) หากธุรกิจสามารถจับเทรนด์ด้านสุขภาพได้ สามารถสอดแทรกสินค้าและบริการเข้าไปในหมวดของสุขภาพ ส่งเสริมให้สุขภาพพวกเขาดีขึ้นได้จากการใช้สินค้าของเรา ก็จะเป็นแต้มต่อให้กับธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว เช่น ธุรกิจอาหาร หากสินค้าของเราไม่ใช่เป็นจานสลัด จานอาหารที่ยึดโยงกับการดูแลหุ่นรูปร่างตั้งแต่แรก แต่เราขายอาหารไทยปกติ ก็สามารถสื่อสารถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพได้ อย่างการใช้เนื้อหมูปลอดสารเร่งเนื้อแดง ไข่ไก่ปลอดสารไม่มียาปฏิชีวนะ ของทอดที่เปลี่ยนน้ำมันใหม่ตลอดเวลา หรือสื่อสารเรื่องพาร์ทของการทำครัวที่ใส่ใจถึงความสะอาด ก็เป็น Value อันมีค่าที่สามารถใช้สื่อสารและได้เปรียบกว่าร้านขายอาหารอื่นๆ ได้ หากเรามีจุดเด่นตรงนี้
 
หรือจะเป็นเรื่องของสุขภาพใจ ก็มีช่องว่างให้คนทำธุรกิจสามารถเลือกสื่อสารได้ในหลายแง่มุม เช่นตัวอย่างของร้านขายไอศกรีมเจ้าหนึ่ง ที่ตั้งชื่อรสชาติเป็นอารมณ์ที่ได้รับหากกินเข้าไป เช่น ไอศกรีมรสชาติ  Happiness, Joyful หรือ Peaceful และมีการสื่อสาร Story Telling ในแต่ละรสชาติให้ลูกค้าสัมผัสถึงได้ด้วย การปรับใช้นำสินค้าไปยึดกับอารมณ์เป็นบวก ก็เป็นการจับจุดของเทรนด์สุขภาพใจเช่นกัน
 
2. Value Gap

สำนักวิจัยธนาคารทหารไทยธนชาติ รายงานว่า คนแต่ละ Generation ที่นักการตลาดเคยแบ่งกลุ่มตามช่วงวัย (Baby Boomer - Gen Z) เส้นแบ่งดังกล่าวมีความเบาบางลงเรื่อยๆ การแบ่งว่ากลุ่มคนในช่วงอายุนี้จะชอบอะไร ต้องสื่อสารกับเขาในรูปแบบไหน ไม่ได้สำคัญเหมือนแต่ก่อน แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆสำหรับภาคธุรกิจ คือ ต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าของเราว่าเขาคือใคร และให้ความสำคัญกับ Value หรือคุณค่าหลักที่เขาจะได้รับ และสื่อสารด้วยคุณค่านั้นอย่างตรงประเด็นกับลูกค้า ลองคิดตามดูว่า หากทำธุรกิจขายปากกาเครื่องเขียน เมื่อคุณสมบัติการใช้งานและคุณภาพของน้ำหมึกไม่ได้แตกต่างกันกับเจ้าอื่นๆในตลาด ลูกค้าก็จะเลือกซื้อด้วยเรื่องของราคาแทน ซึ่งไม่ใช่กลยุทธ์ที่ยืนยาวสำหรับการอยู่รอดในธุรกิจ หากเราเป็น SME ไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่ การนำเสนอคุณค่าว่าลูกค้าจะได้รับอะไรจากสินค้า ไม่ใช่การนำเสนอถึงคุณสมบัติพื้นฐานของสินค้า จะเป็นกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างที่สำคัญ ที่ทำให้แบรนด์เรามีคุณค่ามากขึ้น จนลูกค้าที่ยึดถือคุณค่าเดียวกันนั้นเลือกที่จะยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าของเรา ฉะนั้นหากนำเสนอว่าแบรนด์ของเราส่งเสริมให้คนมีความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ ด้วยปากกาแบรนด์เราที่เขียนได้ไหลลื่นไปด้วยกันกับไอเดีย และความคิดนอกกรอบอย่างไม่มีขีดจำกัดที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ๆในสังคมได้ เป็นต้น คนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ก็มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้สินค้าของเรา
 
3. Martech

Marketing Technology เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบันนี้ และมีประโยชน์อย่างมากที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาการดำเนินงานสื่อสาร และการใช้เครื่องมือทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของ Social Automation ที่มี Chatbot ที่คอยโต้ตอบกับลูกค้าในสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเสนอข้อมูลของสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องมีคนมาเฝ้าหน้า Chat อีกต่อไป ซึ่งการที่ลูกค้าได้รับรายละเอียดของสินค้าอย่างรวดเร็วก็ทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าของเรามีเพิ่มขึ้นไปด้วย ได้แต้มต่อมากกว่าธุรกิจที่ตอบรายละเอียดลูกค้าในอีกชั่วโมงหนึ่ง หรือเลยอีกวันหนึ่งไปแล้ว เพราะความเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก และด้วยคู่แข่งที่มีมากในปัจจุบัน ลูกค้าก็มีสิทธิเลือกสินค้าของเจ้าอื่นโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอการสื่อสารจากธุรกิจที่ดำเนินการช้า หรือจะเป็นในส่วนของระบบ Customer Relationship management (CRM) เก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อเอามาจัดกิจกรรมทางการตลาด เช่นการสะสมแต้ม แลกส่วนลด หรือใช้เป็นการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละคนเพื่อเอามาเป็นส่วนในการคิดโปรเจคการตลาดอื่นๆ ก็ย่อมได้ จะเห็นได้ว่าการที่ธุรกิจหันมาใช้ Martech ย่อมมีแนวโน้มที่จะได้เปรียบกว่าธุรกิจที่ไม่ใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการทำการตลาดอย่างมากเลยทีเดียว
 
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเทรนด์การตลาดในปี 2024 ที่แนะนำว่าคนทำธุรกิจควรนำ 3 เทรนด์หลักมาประยุกต์กับธุรกิจของตัวเอง เพื่อรักษา Position ของตัวเองในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ และสามารถอยู่รอดในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นในปีนี้ไปได้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ม.ค. 2567 เวลา : 17:10:38
กลับหน้าข่าวเด่น
22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 12:47 am