ถึงเวลาตอนเย็นที่นักเรียน-นักศึกษาคาบบ่ายเลิกเรียน ส่วนคนวัยทำงาน หากทำงานเสร็จสิ้นภารกิจเรียบร้อยแล้ว หลายคนๆ หากไม่กลับบ้านเลย ก็มักหาสถานที่ผ่อนคลายหลังใช้พลังงานหนักมาทั้งวัน บ้างก็นัดไปกินข้าวอร่อย ๆ กับเพื่อนฝูง ช้อปปิ้งให้รางวัลตัวเอง ซื้อของใช้เข้าบ้าน หรือหากิจกรรมบันเทิงทำ ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หากไม่อยู่บ้าน ก็ต้องเดินทางออกไป Spend Time ตามความต้องการ หรือตามหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำ แต่ไม่ว่าความต้องการของแต่ละคนจะแตกต่างกันยังไง คนในสังคมไทยก็มักมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ “ห้างสรรพสินค้า”
ห้างสรรพสินค้าในไทย เป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่เรียกได้ว่าทำครบจบได้ในที่เดียว ตั้งแต่มี Supermarket สำหรับซื้อของ Groceries เข้าบ้าน เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง อุปกรณ์สำหรับการใช้งานในออฟฟิศ อุปกรณ์เทค มีศูนย์อาหาร ร้านอาหารหลายรูปแบบเรียงราย มีร้านถ่ายรูป โชว์รูมรถ เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงคลินิกต่างๆ โซนเล่นเกม โรงเรียนสอนพิเศษหลากหลายแขนง ฟิตเนส โรงภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมายตามการจัดวางของแต่ละห้าง จึงไม่แปลกที่ห้างสรรพสินค้าจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวหลักของคนไทยไม่ว่าจะอยากทำอะไรก็ตาม
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันชัดเจนอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา คนในประเทศนั้นไม่ได้นิยมสร้างห้างขนาดใหญ่ที่มีทุกอย่างเพื่อรองรับคนในประเทศของเขา อีกทั้งมีหลากหลายห้างที่ปิดตัวลงไปเนื่องจากไม่มีลูกค้า คนอเมริกานิยมที่จะสั่งซื้อของออนไลน์มากกว่าซื้อตามหน้าร้านอย่างบ้านเรามาก ทั้งนี้ การ Spend Time ของพวกเขาในเวลาว่างก็ไม่ได้โหยหาที่จะไปยังห้างสรรพสินค้า หากแต่พวกเขานิยมไปสวนสาธารณะ เล่นกีฬากลางแจ้ง หากจะออกไปรับประทานอาหาร ร้านอาหารต่างๆ ก็จะอยู่ตามเส้นถนน รวมถึงข้าวของอื่นๆ ที่ขายตามหน้าร้านก็จะตั้งขนาบตามพื้นที่สัญจรเช่นกัน
กลับมาที่ประเทศไทย แม้จะมีร้านอาหาร ร้านค้า ที่ตั้งตามพื้นที่นอกห้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมของการเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าของคนไทยไม่ได้ลดลงไปเลย เห็นได้จากหลังไวรัสโควิด-19 สงบลง ผู้คนก็อยากออกไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตข้างนอก ยอดขายตามหน้าร้านเพิ่มสูงขึ้น และเห็นได้จาก Demand ของความต้องการห้างยังคงแข็งแกร่ง เพราะมีโปรเจกต์ห้างสรรพสินค้าที่กำลังดำเนินการผุดขึ้นมาเรื่อยๆ โดยในฝั่งกรุงเทพฯ การมีห้างสรรพสินค้าที่สร้างขึ้นติดๆ กัน มีให้เห็นได้ทั่วไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ ก็มีการสร้างห้างสรรพสินค้าใน Chain ใหญ่ๆ เช่น Central กระจายตามหัวเมืองเพื่อรองรับคนในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งสังเกตอย่างเห็นได้ชัดเลยว่า เมื่อมีห้างดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในจังหวัด ก็จะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายใช้สอยอย่างมาก กลายเป็นศูนย์กลางความเจริญที่ดึงดูดให้พื้นที่รอบๆ เกิดโปรเจกต์ต่าง ๆ ขึ้นมา เช่น โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงแรม และการขนส่งสาธาณะที่พัฒนาดีขึ้น อีกทั้งที่ดินก็มีราคาปรับตัวสูงขึ้น กลายเป็นทำเลทองโดยปริยาย สิ่งนี้เป็นการการันตีได้อย่างดีเลยว่าห้างสรรพสินค้าได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมทั่วประเทศไทยจริงๆ
เบื้องหลังความนิยมห้างสรรพสินค้าของคนไทย
แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ห้างสรรพสินค้าดูจะเป็นสถานที่หลักอันดับแรกแห่งเดียว หากต้องการอยากออกมาเดินเล่น ออกมาใช้ชีวิต ไม่ว่าจะนัดกับเพื่อน เดินเล่นกับแฟนหรือครอบครัวในสถานที่ใกล้ๆ ก็มักจะจบลงที่ห้างสรรพสินค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ คนไทยไม่ได้นิยมออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ หรือใช้เวลากับห้องสมุดเหมือนกับประเทศอื่นๆ ซึ่งเบื้องลึกที่ทำให้เกิดความนิยมเดินห้างสรรพสินค้าของคนไทย อาจมีเหตุผลดังนี้
1. ผังเมืองส่งผลต่อพฤติกรรม พฤติกรรมของกลุ่มคนในสังคมที่มีทิศทางเดียวกัน มักจะมีผลมาจากตัวแปรต้น ซึ่งในที่นี้คือเรื่องของผังเมือง เนื่องจากประเทศไทยนั้นไม่ได้มีการจัดวางผังเมืองที่พัฒนาได้เท่าทันไปตามการพัฒนาของระบบเศรษฐกิจไทย ไม่ได้เอื้อต่อเส้นทางการคมนาคมที่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เห็นได้จากปัญหาการจราจร โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ยิ่งการสร้างห้างสรรพสินค้าก็จะมีปัญหารถติดเกิดขึ้นตามมาด้วยเสมอ ทำให้ผู้คนก็มักจะเลือกกระจุกตัวเดินเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ตามห้างสรรพสินค้า มากกว่าการฝ่ารถติดออกไปยังที่อื่นๆ
2. ไม่มีพื้นที่สาธารณะเพื่อรองรับคนไทย เหตุผลที่คนไทยมักนิยมเดินห้าง มากกว่าไปสวนสาธารณะหรือห้องสมุด ก็คือ “มันไม่ได้มีตั้งแต่แรก” ทั้งสวนสาธารณะที่กระจายตัวอยู่อย่างจำกัด และความโตเร็วของสังคมเมือง เกิดโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์มากมายในกรุงเทพฯ ทำให้ที่ดินมีราคาสูงมาก ไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะมาทำเป็นสวนสาธารณะ เมื่อตัวเลือกที่มีอยู่อย่างจำกัด ผู้คนจึงหันไปเดินเล่นยังสถานที่ที่สะดวกมากกว่า และในปัจจุบัน ห้างสรรพสินค้าที่เป็นเอกชน ก็มักมีการจัดพื้นที่สีเขียว พื้นที่วิ่งขนาดย่อมให้กับลูกค้าแทน แต่ในฝั่งของรัฐบาลไม่ได้รองรับตรงส่วนนี้ รวมถึงห้องสมุดชุมชนก็ไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควรอีกด้วย
3. การขนส่งสาธารณะ ในประเทศไทยการขนส่งสาธารณะที่สะดวกที่สุด ก็คือ ในแถบกรุงเทพฯ เท่านั้นที่มีรถไฟฟ้า นอกจากนั้นตามต่างจังหวัด ก็ต้องพึ่งรถตู้หรือรถเมล์ ที่ไม่ได้ครอบคลุมทุกเส้นทาง ฉะนั้นคนที่อาศัยรถขนส่งสาธารณะก็จะมีทางเลือกในการไปยังสถานที่ที่จำกัด และส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นเส้นทางยอดนิยม เช่น มหาวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้า
4. ประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้น สภาพภูมิอากาศนั้นส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้คนเป็นอย่างมาก และเนื่องด้วยประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้น การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงวัน ก็ต้องเผชิญกับอากาศร้อนและความเหนอะหนะไม่สบายตัว ทำให้การจะหาที่เดินเล่น ที่ทำกิจกรรมเลยมักจะไปยังห้างสรรพสินค้าที่มีอากาศเย็น และเป็นสถานที่ One Stop Service ที่ทำได้ทุกอย่างในที่เดียว
จะเห็นได้ว่าความนิยมของห้างสรรพสินค้าของสังคมคนไทยนั้นประกอบไปด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งปัญหาโครงสร้าง การคมนาคม การบริหารของภาครัฐ และปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างสภาพภูมิอากาศ ทุกอย่างได้ร้อยเรียงส่งผลให้เกิดพฤติกรรมของคนไทยที่ยากจะเปลี่ยนได้ง่ายๆ หากเศรษฐกิจไทยยังเติบโตล้ำหน้าไปมากกว่าการบริหารในประเทศ ที่ภาคเอกชนจะกลายเป็นผู้สนองความต้องการพื้นฐานของสังคมเสียเอง โดยมีพื้นฐานของระบบทุนนิยม ที่ผู้คนจะมีความสามารถในการเข้าถึงตามเงินในกระเป๋าที่ตัวเองมี
ข่าวเด่น