สำหรับการจะทำธุรกิจร้านคาเฟ่หรือร้านขนมสัก 1 ร้านในกรุงเทพมหานครนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการคิดและวางแผนในทุก ๆ องค์ประกอบอย่างรัดกุม โดยเฉพาะการหาจุด Unique หรือความแตกต่างให้กับแบรนด์ ผนวกกับการใช้กลยุทธ์ทางด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อจุดกระแสและดึงดูดลูกค้าให้ได้ เพราะตลาดนี้จัดอยู่ใน Red Ocean พื้นที่ทางธุรกิจที่มีการแข่งขันที่สูงมาก หากอยากเป็นผู้อยู่รอด แบรนด์ของเราก็ต้องมีศักยภาพมากพอที่จะสามารถแข่งขันไปจนถึงเอาชนะคู่แข่งได้ด้วยจุดแข็งที่เรามี ซึ่งนอกจากการแข่งขันด้วยราคา สิ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยืนยาว คือ การสร้างคุณค่าจากการใช้จุดแตกต่างเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะให้กับลูกค้าที่เขาจะได้รับจากแบรนด์เราเท่านั้น
และตัวอย่างของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ณ เวลานี้ คงหนีไม่พ้น Butterbear ร้านขายขนมจำพวก คุกกี้ ขนมปัง โดนัท และเค้กต่าง ๆ ในเครือ Coffee beans by Dao โดยมีหน้าร้านเป็นคาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ห้างเอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) ชั้น G ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักและโด่งดังทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติอย่างมาก จนมีสินค้าอื่น ๆ ต่อยอดออกมา รวมถึงมีพื้นที่ทางธุรกิจในตลาดอื่น ๆ อีกมากมายนั้น เป็นเพราะ Butterbear ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะการวางกลยุทธ์ “Brand Personality” หรือการสร้างบุคลิกภาพให้กับแบรนด์ให้ลูกค้าเห็นภาพได้อย่างชัดเจนที่สุด ผ่านการสร้างมาสคอต “น้องหมีเนย” เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของร้าน ที่มีทั้งการดีไซน์คาแรคเตอร์ โทนสี ตัวขนม และแพคเกจจิ้ง กลมกลืนไปในทางเดียวกันจนก่อเกิดเป็น DNA ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางแบรนด์ Butterbear ทำให้ภายในเวลาราว ๆ 1 ปี น้องหมีเนยก็ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับทั้งแวดวงธุรกิจ ตั้งแต่ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า การท่องเที่ยว ไปจนถึงวงการบันเทิง T-Pop อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
สูตรสำเร็จการสร้างแบรนด์ Butterbear ผ่านน้องหมีเนย
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นที่แบรนด์ให้ความสำคัญกับการสร้าง Brand Personality ผ่านมาสคอตที่ทำให้คนเห็นภาพอย่างชัดเจนนั้น ความได้เปรียบของการสร้างตัวตนแบรนด์ออกมาแบบจับต้องได้ ทำให้ Message หรือสารที่แบรนด์ต้องการจะสื่อกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการออกแบบคาแรคเตอร์และสร้าง Story ให้กับน้องหมีเนยเป็นเหมือนมนุษย์ที่มีอารมณ์ มีความรู้สึกนึกคิด ที่เป็นน้องหมีอายุ 3 ขวบที่เรียบร้อย อ่อนโยน มีกาลเทศะ แต่ร่าเริง กล้าแสดงออก ชื่นชอบในการเต้นเพลง T-Pop และ K-Pop อีกทั้งยังมีการสร้างสื่อ Social Media ให้ติดตามความน่ารักของน้องหมีเนย ก็ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น ผู้ที่ชื่นชอบการเต้นเหมือนกัน ไปจนถึงคนที่ใช้แพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ ก็ต่างโดนตกด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งทางแบรนด์ก็ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มากขึ้นเพื่อให้พวกเขาเกิดความผูกพันกับน้องหมีเนย ผ่านการสร้าง Engagement ทั้งการจัดงานโชว์ตัวทุกสัปดาห์หน้าร้านค้า เพื่อให้แฟนคลับน้องหมีเนยได้ใกล้ชิด ได้ถ่ายรูปด้วย และยังเป็นการสร้าง Traffic ให้คนเข้ามาซื้อขนมที่ร้านมากขึ้น ซึ่งเมนูขนมของทางร้านก็มีการดีไซน์หน้าตา และรสชาติที่ไปในทางเดียวกับคาแรคเตอร์ของน้องหมีเนย เช่น มีรูปน้องหมีเนยในทุกเมนูของร้าน หรือจะเป็นรสชาติขนมที่เข้าใจง่าย อย่าง บัตเตอร์คุกกี้ โมจิโดนัท ขนมปังเนยสด เป็นต้น อีกทั้งยังมีการสร้างฐานแฟนคลับที่เรียกว่า “ด้อมน้องเนย” ให้คนมาอัพเดตความน่ารักกันในสื่อโซเชียล มีกิจกรรมให้ช่วยกันออกแบบชุดให้น้องหมีเนยใส่ ไปจนถึงการออกสินค้าสะสมหลายรูปแบบ ทั้งกระเป๋า เสื้อ Line Sticker และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ได้ต่อยอดจากมาสคอตที่สร้าง ให้กลายเป็น Influencer เพื่อเจาะตลาดบันเทิงได้อีก เช่น การออกเพลงของน้องหมีเนย 2 ซิงเกิล เป็นเพลงน่ารักสดใส เข้ากับคาแรคเตอร์ของทางแบรนด์ หรือการใช้กลยุทธ์ Co-Branding ที่ไปร่วมงานกับศิลปินในวงการบันเทิงคนอื่น ๆ เพื่อสร้าง Brand Awareness ให้กับกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน เช่น การไปเป็นแขกรับเชิญในกลุ่มนักร้อง Boy Band เป็นเกสต์ในงานคอนเสิร์ตและในรายการต่างๆ เป็นต้น
ด้วยความโด่งดังของน้องหมีเนยนั้น ทำให้ปัจจุบันมีแฟนคลับทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่ลงทุนมายังไทยเพื่อมาเจอกับน้องหมีเนยเป็นหลัก และจุดนี้เองที่ร้าน Butterbear ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อยอดให้กับธุรกิจข้างเคียงอีกมากมาย ทั้งสร้างความนิยมให้กับพื้นที่ตั้งร้านค้าอย่างห้างเอ็มสเฟียร์ ที่มี Traffic เพิ่มขึ้นมากด้วยกระแสความนิยม และการที่ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ได้ดึงน้องหมีเนยเป็นพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวคนใหม่ล่าสุด เพื่อวางแผนสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาทเข้าประเทศ
จะเห็นได้ว่าการสร้าง Brand Personality ผ่านมาสคอต และทำให้ลูกค้ามีสถานะเป็นแฟนคลับไปด้วยได้สร้างความได้เปรียบให้กับแบรนด์อย่างมหาศาล และถึงแม้จะมีผู้ที่ทำสินค้าลอกเลียนแบบออกมา อย่างในจีนที่นำโมเดลของน้องเนยมาสร้างมาสคอตและออกสินค้าเลียนแบบ แต่ก็ไม่สามารถขโมยอัตลักษณ์ และคุณค่าเฉพาะของแบรนด์ที่มีเพียงหนึ่งเดียว และไม่มีใครเหมือนออกไปได้
ข่าวเด่น