สำหรับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชน ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แจงความคืบหน้าถึงรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการ ทั้งกรอบระยะเวลาการลงทะเบียน คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ ขอบเขตของการซื้อเบื้องต้น รวมถึงขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งทาง “AC News” ได้สรุปรวมรายละเอียดทุกประเด็นอัปเดตที่ควรทราบมาไว้ที่นี้แล้ว
ระยะเวลาการลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แบ่งออกตามวิธีการลงทะเบียน ได้แก่
1. ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. - 15 ก.ย. 2567
2. ประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. - 15 ต.ค. 2567 โดยจะต้องเตรียมบัตรประชาชนไปลงทะเบียนตามระยะเวลาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เช่น สถานที่การลงทะเบียนจะมีการแจ้งเพิ่มเติมอีกครั้งในการแถลงข่าวครั้งต่อไป
ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ สำหรับประชาชนที่มีสมาร์ทโฟน โดยกลุ่มแรกนี้ จะแบ่งออกเป็นอีก 2 กลุ่มย่อย คือ กลุ่มที่ไม่เคยลงทะเบียนในแอปทางรัฐมาก่อน กับกลุ่มที่เคยลงทะเบียนในแอปมาแล้ว
1.หากไม่เคยลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” มาก่อน ต้องทำการโหลดแอปดังกล่าวจาก App Store/ Google Play ช่องทางเดียวเท่านั้น ตามระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนที่ใช้ (IPhone = AppStore, Android = Google Play) จะไม่มีการส่งข้อมูลให้ดาวน์โหลดผ่าน Line ไม่มีการส่งลิงก์ หรืออะไรก็ตามมายังมือถือ และจะไม่มีการโทรมาเชิญชวนใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วให้กดลงทะเบียนรับสิทธิ กดยอมรับเงื่อนไข จากนั้นทำการกรอกข้อมูลส่วนตัว ถ่ายรูปแสกนใบหน้าตามขั้นตอนรูปด้านบน เมื่อเสร็จสิ้น ระบบจะทำการตรวจสอบ และแจ้งว่าเราผ่านเกณฑ์หรือไม่หลังวันที่ 22 ก.ย. 2567
2. สำหรับคนที่มีบัญชีในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และเคยยืนยันตัวตนมาแล้ว ให้กดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ กดอนุญาตเช็คข้อมูลส่วนบุคคล และกดยอมรับเงื่อนไข จากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบและมีการแจ้งกลับมาหลังวันที่ 22 ก.ย. 2567 ว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่
ส่วนในฝั่งร้านค้า จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนวันที่ 1 ต.ค. 2567 โดยจะรอรายละเอียดการลงทะเบียนเพิ่มเติมในการแถลงข่าวครั้งต่อไป
คุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท อัปเดตล่าสุด
1.มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ภายในวันที่ 15 ก.ย. 2567
2.มีสัญชาติไทย มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
3.มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทในปีภาษี 2566
4.จากข้อด้านบน หากใครที่ไม่ได้ยื่นภาษี ก็จะพิจารณาในส่วนของเงินฝากแทน โดยที่จะต้องไม่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับฝากเงิน และผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน) รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567
5.ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างต้องโทษหรือจำคุกในเรือนจำ
6.ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
7. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
เงินดิจิทัลซื้ออะไรได้บ้าง
1.สำหรับสิ่งที่ซื้อได้ ในฝั่งการใช้งานของประชาชน สามารถใช้ซื้อสินค้าทุกประเภทที่เข้าร่วมโครงการ ภายใต้ร้านค้าขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ซึ่งรวมถึงร้านค้าตามในห้างที่แยกออกมาจากโซน Plaza (หรือก็คือร้านค้าที่ลงทะเบียนร้านค้าแยก ไม่ใช่ลงทะเบียนในนามห้าง)
2.สำหรับสิ่งที่ซื้อไม่ได้ ได้แก่ โทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เชื้อเพลิงน้ำมัน สลากกินแบ่งรัฐบาล สุราและสารเสพติด อัญมณี ทองคำ และธุรกิจการบริการ ไม่สามารถใช้เงินดิจิทัลได้ นอกจากนี้ยังใช้ไม่ได้กับ ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ Supermarket ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
ขอบเขตการใช้งานเงินดิจิทัล
1.จ่ายผ่านการแสกน QR Code แบบ Face to Face
ด้านวิธีการซื้อขายสินค้า ทั้งผู้ซื้อและร้านค้า จะต้องมีธุรกรรมการซื้อขายผ่านการแสกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าแบบเจอหน้ากัน ไม่สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ และห้ามส่ง QR Code ให้แก่ผู้อื่นไปซื้อ
2.สามารถซื้อได้กับร้านค้าในเขตหรืออำเภอเดียวกัน
ผู้ซื้อหรือผู้ที่ได้รับสิทธิจากโครงการ จะสามารถซื้อของกับร้านค้าในเขตหรืออำเภอตามทะเบียนบ้านของผู้ได้รับสิทธิ เช่น ผู้ได้รับสิทธิมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในเขตดินแดง ก็จะสามารถใช้เงินดิจิทัลกับร้านค้าที่ลงทะเบียนอยู่ในเขตดินแดงเท่านั้น เป็นต้น
ส่วนทางด้านประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะต้องมีการใช้จ่ายด้วยบัตรประจำตัวประชาชน และทุกครั้งที่มีการซื้อขาย จะต้องถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ซึ่งจะมีความยุ่งยากในการซื้อมากกว่ากลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ในกรณีของผู้ป่วยติดเตียง จะมีการพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้สิทธิสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างครอบคลุมทุกส่วนและเที่ยงธรรมที่สุด ซึ่งจะมีการประกาศอีกครั้งภายหลัง
สำหรับการเริ่มใช้งาน ล่าสุดคาดว่าจะเริ่มภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หรือ ต.ค.- ธ.ค. 2567 ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวถึงรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอีก 2 ครั้ง จากทางกระทรวงพาณิชย์ ที่มาแถลงในรายละเอียดของสินค้าที่ซื้อได้เพิ่มเติม และแถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะแจ้งวันที่ได้รับเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการ และรายละเอียดที่สำคัญต่าง ๆ เพิ่มเติม
ข่าวเด่น