ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเปิดฉากสงครามระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส เมื่อเดือน ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลักษณะของสงครามตัวแทน และได้ลุกลามกลายเป็นสงครามใหญ่ระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ที่อิหร่านได้กระโจนเข้ามาร่วมต่อกรกับทางอิสราเอลด้วยตัวเองจนปัจจุบันนั้น ล่าสุดความขัดแย้งดังกล่าวได้ร้อนระอุขึ้น หลังจากที่ผู้นำทางการเมืองของฮามาสถูกลอบสังหาร ทำให้เกิดความกังวลว่าอิหร่านจะมีการตอบโต้เพื่อล้างแค้น เป็นเหตุผลักดันราคาทองคำตลาดโลกขึ้นต่อจนใกล้ทดสอบจุดสูงสุดเดิมในประวัติศาสตร์
สื่อทางการอิหร่าน ได้เปิดเผยว่า “อิสมาอิล ฮานิเยห์” หนึ่งในผู้นำทางการเมืองสูงสุดของฮามาส ถูกลอบสังหารด้วยจรวดพิสัยใกล้ติดหัวรบหนัก 7 กก. เมื่อวันพุธที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ณ ที่พักในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน โดยยังได้แถลงการณ์ด้วยว่า การสังหารฮานิเยห์ เป็นการกระทำโดยรัฐบาลอิสราเอล ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
โดยช่วงเวลาการลอบสังหารผู้นำฮามาส ขณะอยู่ในอิหร่านเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ มาซูด เปเซชเคียน นักปฏิรูปคนใหม่ของอิหร่านเพียงภายหลังไม่กี่ชั่วโมงนั้น ทางอิหร่านมองว่าเป็นการจงใจสร้างความอับอายให้เตหะราน อีกทั้งยังสะท้อนถึงความคิดของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ว่าต้องการจุดฉนวนสงครามใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ (นอกเหนือจากสงครามระหว่างอิสราเอล - ฮามาสในฉนวนกาซา และระหว่างอิสราเอล - ฮิซบอลเลาะห์ ที่บริเวณชายแดนอิสราเอลและเลบานอน) อีกทั้งยังเป็นการดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้ง
แม้ทางด้านอิสราเอลไม่ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังการสังหารนายฮานิเยห์ แต่ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาประกาศแล้วว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมของทางการอิหร่าน ที่จะล้างแค้นให้กับฮานิเยห์ ตรงตามข้อมูลจากสำนักข่าว Reuters รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านได้มีการเรียกประชุมฉุกเฉิน ร่วมกับแกนนำพันธมิตร ทั้งเลบานอน อิรัก เยเมน ณ กรุงเตหะราน ซึ่งมีตัวแทนจากกลุ่มฮามาส กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มฮูตีในเยเมน และกลุ่มต่อต้านในอิรัก เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ถึงมาตรการตอบโต้อิสราเอล ถึงเวลา สถานที่ และวิธีการที่เหมาะสม เพื่อลงโทษอิสราเอลสถานหนัก
โดยล่าสุดการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ก็เป็นการยืนยันของความเสี่ยงในการเกิดสงครามล้างแค้นดังกล่าว ที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เตรียมส่งเรือรบ (เรือรบยูเอสเอส อับราฮิม ลินคอล์น ซึ่งเป็นเรือกลุ่มโจมตี เข้ามาในอ่าวโอมาน) และเครื่องบินขับไล่เข้าไปเสริมในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยปกป้องอิสราเอล จากการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นโดยฝีมือของอิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธสนับสนุน อีกทั้งสายการบินระหว่างประเทศยังมีการระงับเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากตะวันออกลาง หลายสายการบินเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย
ข้อมูลกราฟ Gold Spot จาก https://www.finnomena.com/
สัญญาณความไม่สงบดังกล่าว จึงได้ผลักดันให้ราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูงแล้ว สูงขึ้นต่อ อีกทั้ง Gold Spot ยังใกล้แตะจุดทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 2,483 ดอลลาร์สหรัฐ (แตะจุดสูงสุดดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2567) โดยล่าสุด วันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ราคา Gold Spot พยายามขึ้นมาทดสอบที่ระดับ 2,470 ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงจุดสูงสุด ก่อนปิดตลาดไปที่ระดับ 2,442.08 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุน ที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากวันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมานี้ ธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี จาก 5.25% ลงมาอยู่ที่ 5.00% และการที่ธนาคารอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศศูนย์กลางทางการเงินโลก ได้นำร่องลดอัตราดอกเบี้ยก่อนใคร ก็นับเป็นการยืนยันว่ามีโอกาสที่จะได้เห็น Fed ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปเช่นกัน ในการประชุมครั้งต่อไป วันที่ 17 - 18 ก.ย. 2567 เนื่องจากปัจจัยตัวเลขเงินเฟ้อ ที่มีการปรับลดลงมา แม้จะไม่ได้อยู่ในกรอบ 2% ตามที่ Fed วางเป้าหมายไว้ แต่ก็เป็นระดับที่เพียงพอในการปรับลดดอกเบี้ยลงมาได้
ข่าวเด่น